ศธ.สั่งลดขนาดห้องเรียนประถม-มัธยม ทำกิจกรรมนอกห้องได้ไม่เกิน20 วันต่อปี

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิกา ร (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ มีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปรับเกณฑ์ขนาดห้องเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนลดลง เพื่อให้ครูเอาใจใส่นักเรียนได้มากขึ้น และลดความเครียดในการจัดการเรียนการสอนของครู ดังนี้ ระดับปฐมวัยและประถมศึกษา ให้มีนักเรียนไม่เกิน 30 คนต่อห้องเรียน และระดับมัธยมศึกษา ให้มีนักเรียนไม่เกิน 40 คนต่อห้องเรียน มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปีเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 นี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษายังมีมติให้ สพฐ.ยกเลิกการสอบประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับเขตพื้นที่การศึกษา หรือ ลาส สำหรับนักเรียนชั้นป.2, ป.4, ป.5, ม.1, ม.2และ ม.5 ตั้งแต่ปี 2558 นี้เป็นต้นไปด้วย เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนมีการทดสอบนักเรียนในแต่ละช่วงชั้นอยู่แล้ว การยกเลิกการสอบลาสจะทำให้ประหยัดงบประมาณ และนักเรียนไม่เกิดความเครียดจากการประเมินมากจนเกินไป รวมทั้งที่ประชุมยังมอบให้ สพฐ.ไปปรับลดกิจกรรมนักเรียนลง เพื่อให้ครูและนักเรียนมีเวลาอยู่ในห้องเรียนมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานักเรียนและครูต้องออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องเรียนเฉลี่ยปีละ 84 วัน จากเวลาเรียนทั้งหมดประมาณ 200 วันต่อปีการศึกษา เท่ากับว่าเด็กและครูต้องใช้เวลาทำกิจกรรมนอกห้องเรียนถึง 40% ขอเวลาเรียนทั้งหมด ซึ่งมากเกินไป ดังนั้น ต้องปรับลดให้เหลือไม่เกิน 10% หรือประมาณ 20 วัน ซึ่งเรื่องนี้ ศธ.จะประกาศเป็นนโยบายว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 กิจกรรมของนักเรียนนอกห้องเรียนจะต้องลดลงอย่างเห็นได้ชัด