มติ ศบค.ชุดเล็กให้ 28 จว.เปิด ร.ร. 1 ก.พ. เว้นสมุทรสาคร ส่วน 4 จังหวัดควบคุมสูงสุด ให้ลองสลับวันมาเรียนครึ่งเดือน ก่อนจัดการเรียนการสอนตามปกติ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ชุดเล็ก) ให้ชี้แจงถึงการเปิดโรงเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะเปิดโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชนในพื้นที 28 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงพร้อมกัน
ยกเว้นสถานศึกษาในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือจังหวัดสมุทรสาคร ที่ยังจำเป็นต้องปิดสถานศึกษาไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย
ส่วนสถานศึกษาในพื้นที่ 4 จังหวัดควบคุมสูงสุด คือจังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ศบค.ชุดเล็กอนุญาตให้เปิดโรงเรียนได้ แต่ขอให้โรงเรียนยึดตามมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด เช่น จัดบริการจุดล้างมือ และวัดไข้
อย่างไรก็ตาม ทาง ศธ.กำหนดให้แต่ละสถานศึกษาในพื้นที่ 4 จังหวัดควบคุมสูงสุด ต้องมีการสลับวันให้นักเรียนมาเรียน โดยจำนวนนักเรียนต่อห้องต้องไม่เกิน 25 คน ทั้งนี้ การเปิดเรียนของสถานศึกษาในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัดนี้ จะมีการประเมินสถานการณ์จาก ศบค.อีกครั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 หากสถานการณ์ดีขึ้นก็ให้จัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ตามปกติ
รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวด้วยว่า กรณีผู้ปกครองที่มีค่าใช้จ่ายอินเตอร์เน็ตของบุตรหลานที่ต้องเรียนออนไลน์ในช่วงเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมานั้น ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กำลังหาแนวทางช่วยเหลือผู้ปกครองในส่วนนี้อยู่ และจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการช่วยเหลือของ ศธ.ในขณะนี้ โดยคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ศธ. ได้มีมติให้สำนักงาน สช.ทำหนังสือถึงโรงเรียนเอกชนในระบบทั่วประเทศ ให้สรุปค่าธรรมเนียมการศึกษาที่เป็นค่าบริการที่ไม่เกิดขึ้นจริงในช่วงเดือนมกราคม 2564 เพราะไม่ได้มีการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน
เช่น ค่าอาหารกลางวัน ค่าเครื่องใช้แรกเข้า ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ ค่าทัศนศึกษา ค่ารถรับส่ง เป็นต้น เพื่อสรุปรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่า มีรายการใดบ้างที่ต้องจ่ายคืนแก่ผู้ปกครอง โดยให้โรงเรียนเอกชนสรุปรายการทั้งหมดภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม การคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาในกรณีดังกล่าว เป็นเรื่องที่โรงเรียนกับผู้ปกครองจะต้องไปตกลงกันว่า จะคืนในรูปแบบใด เช่น คืนเป็นตัวเงิน หรือโรงเรียนอาจนำไปเป็นส่วนลดค่าเล่าเรียนในภาคเรียนถัดไป เป็นต้น
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
