สมาคมผู้บริหารมัธยมหารือนายกฯ ขอพระราชทานเครื่องราชฯ ผอ.สถานศึกษา

นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า ตนได้ลงนามในหนังสือที่ ส.บ.ม.ท. ๐๑๒/๒๕๖๔ ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง​​การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ของข้าราชการครูตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา

โดยสาระสำคัญในหนังสือดังกล่าว ส.บ.ม.ท.ได้นำเรียนขอความอนุเคราะห์นายกรัฐมนตรีได้โปรดพิจารณาในเรื่องการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ของข้าราชการครูตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ดังนี้

๑.ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการ ที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ เมื่อได้รับเงินเดือนขั้นสูงและได้ ท.ช.มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี สามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย (ป.ม.) ได้

๒.ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทอำนวยการ ที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ เมื่อได้รับเงินเดือนขั้นสูงและได้ ท.ช.มาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี สามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย (ป.ม.) ได้

๓.ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวดังนี้ คือข้าราชการครูที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้นสูงของระดับ ๘/คศ.๓/อันดับชำนาญการพิเศษ ดำรงตำแหน่งบังคับบัญชา และได้รับ ท.ช.มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปีบริบูรณ์ สามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย (ป.ม.) เป็นกรณีพิเศษได้ โดยให้ขอได้ในปีที่เกษียณอายุราชการเท่านั้น

ซึ่งหนังสือของสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ยังระบุความสำคัญด้วยว่า

ที่ผ่านมาข้าราชการครูตำแหน่งผู้อำนวยสถานศึกษาที่มีคุณสมบัติตามข้อ ๓ ของหนังสือนี้ ล้วนได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงโปรดพระราชทานวินิจฉัย

และที่ผ่านมาทรงพระเมตตาพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย (ป.ม.) ให้กับบรรดาผู้อำนวยการสถานศึกษาดังกล่าวในทุกปี ยังความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก

แต่ขณะนี้ข้าราชการครูตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่เกษียณอายุราชการไปตั้งแต่ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๒ และมีคุณสมบัติตามข้อ ๓ ของหนังสือนี้ กลับไม่มีรายใดที่ได้รับการทูลเกล้าเสนอชื่อจากคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย

ทั้งๆ ที่บรรดาผู้อำนวยการสถานศึกษาดังกล่าวนั้น นอกจากเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์แล้ว ยังเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าตลอดชีวิตที่รับราชการมา ต่างได้กระทำความดีความชอบเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หรือสาธารณชนอย่างยิ่งจนเกษียณอายุราชการ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ประจักษ์

ดังนั้น การได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพายนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลอย่างหาที่สุดมิได้แล้ว ยังเปรียบเสมือนการได้รับพระราชทานของขวัญอันล้ำค่าจากล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑๐ เพื่อเป็นรางวัลในความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการจนเกิดผลดียิ่งต่อทางราชการ

นอกจากนี้ สมาคมฯเห็นว่าข้าราชการพลเรือนที่รับราชการจนมีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ซึ่งยังคงได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย

ในลักษณะเดียวกับข้าราชการครูตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต่างก็มีหน้าที่และผลงานต่อชาติบ้านเมืองที่ไม่แตกต่างกัน จึงควรได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองเช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงขอความเมตตาจากท่านนายกรัฐมนตรีโปรดบัญชาการให้คณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาทบทวนในเรื่องนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่บรรดาผู้อำนวยการสถานศึกษาทุกสังกัดต่อไป

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)