สถาบัน ว.ชุมชนจับมือ!สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่

สถาบันวิทยาลัยชุมชน จับมือสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นำร่อง 6 วชช. ได้แก่ แพร่ บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู ยโสธร ตราด และสงขลา และของสมาพันธ์ฯอีก 5 จังหวัด คือ ลำปาง ชุมพร สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี และอุดรธานี พร้อมจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัด เพื่อผลิตคนให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในท้องถิ่น

ทั้งนี้ ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อเร็วๆ นี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. เป็นประธานลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันวิทยาลัยชุมชน กับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

โดย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า วิทยาลัยชุมชน (วชช.) เป็นสมาชิกใหม่ของ อว. และเพิ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานใหม่ คือด้านการสร้างช่างศิลปท้องถิ่น เพื่อสร้างศิลปวัฒนธรรมและวิชาชีพให้จังหวัด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจะได้ใช้ประโยชน์จากวิทยาลัยชุมชนสร้างความรู้ใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านศิลปวัฒนธรรมไปจนถึงอุตสาหกรรมศิลป ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมของประเทศไทยดีขึ้น

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีบริษัทเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อย ซึ่งถือว่าสำคัญ เพราะถ้าประเทศมีแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ ประเทศไทยจะไปไม่รอด ดังนั้น เอสเอ็มอีหรือ สตาร์ทอัพจึงสำคัญมาก แต่ขอให้ใช้วิทยาการให้มากขึ้น อย่าใช้แต่ความเคยชิน

ด้าน ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน กล่าวว่า สถาบันวิทยาลัยชุมชน มีอายุครบ 17 ปี กำลังเข้าสู่ปีที่ 18 ถือว่ายังเป็นวัยรุ่น มีวิทยาลัยชุมชน 20 แห่ง ตั้งอยู่ตามพื้นที่ชายแดนชายขอบที่ยากจนที่สุดของประเทศ มีนักศึกษารวมประมาณ 1.4 หมื่นคน เปิดสอนระดับอนุปริญญา

ทั้งนี้ ความร่วมมือกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงวันที่ 30 ธ25ันวาคม 2566 หรือระยะเวลา 2 ปี 10 เดือน จะร่วมกันจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัด เพื่อผลิตคนสู่ท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในท้องถิ่น

เบื้องต้นจะมีการนำร่องความร่วมมือใน 6 จังหวัดที่มีวิทยาลัยชุมชน ได้แก่ แพร่ บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู ยโสธร ตราด และสงขลา ส่วน วชช.อีก 14 แห่งที่เหลือ จะมีการขยายพื้นที่ดำเนินการตามที่จะตกลงร่วมกันต่อไป 

นอกจากนี้ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยยังจะสนับสนุนการทำงานของนักศึกษาที่ศึกษาในพื้นที่ข้างเคียง รวมทั้งนอกพื้นที่นำร่อง อีก 5 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ชุมพร สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี และอุดรธานี

"สถาบัน วชช.คาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ วชช.สามารถผลิตนักศึกษาได้ตรงกับความต้องการของตลาด"

ขณะที่ ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานกิตติมศักดิ์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ มีเครือข่ายเอสเอ็มอีใน 76 จังหวัด และลงลึกไปในระดับอำเภออีก 882 แห่ง รวมทั้งมีการดำเนินการไปถึงระดับชุมชน

ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ 1.จะนำกลไกของสมาพันธ์ฯไปร่วมวางแผนจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับชุมชน 2.นำนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนมาฝึกอบรม ฝึกงานกับสมาพันธ์ฯ เพราะการจะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ จะต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ มีประสบการณ์การทำงาน ซึ่งไม่สามารถสอนในห้องเรียนได้ ต้องมาทำงานร่วมกัน

"และ 3.หลังสิ้นสุดความร่วมมือ นักศึกษาวิทยาลัยชุมชนสามารถมี 3 ทางเลือก คือ เป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่, ไปทำงานในองค์กรของรัฐและเอกชน และไปเรียนต่อ"

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)