หยิกแก้มหยอก วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564

หยิกแก้มหยอก วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564

“สิงห์ ราชดำเนิน”

หยิกแก้มหยอก โดย “สิงห์ ราชดำเนิน” วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้บรรยากาศความเคลื่อนไหวร้อนฉ่าทางการเมือง หลัง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ และ ถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม 3 รัฐมนตรี ต้องหลุดจากตำแหน่ง เนื่องจากคำพิพากษาคดี กปปส.น่าจะเป็น “สัญญาน” การ “ล้างไพ่” ตามด้วยการจัดสรรเก้าอี้ รมต. ทำให้เห็นสัจธรรมของนักเคลื่อนไหวที่ปลายทาง จะจบลงด้วยอาการใด...

...ไม่มีมิตรแท้และถาวรในกลุ่มนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นในกลุ่มข้าราชการ หรือนักการเมืองมืออาชีพอย่างที่เห็น สุดท้ายเป็นเพียงแค่ให้เวลาออกมาโชว์ลีลากันเต็มที่ ก่อนส่งให้ลาหายลับ...

...เป็นที่รับทราบกันแล้วว่า ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หลุดจากตำแหน่ง รมว.ศธ.ทันที ตามรัฐธรรมนูญ ม.160 ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ต้องคำพิพากษา ให้จำคุก 6 ปี 16 เดือน ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว “สิงห์ ราชดำเนิน” ขอแสดงความเห็นใจและเข้าใจในสิ่งอันเป็นผลพวงพ่วงมาจากสมัยเป็น กปปส. เมื่อมาสวมบทบาทเสนาบดีกระทรวงศึกษา ก็ต้องว่ากันไปกฎหมาย ยามลาจากก็ เข้าใจและอดเศร้าตามเช่นกัน...

...แม้บนเฟซบุ๊ก ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ โพสต์ขึ้นก่อนที่ศาลจะตัดสิน ด้วยข้อความระบุว่า “ผมตระหนักในผลของการกระทำของผมอยู่เสมอว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำไปนั้นเพื่ออะไร เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามาอยู่ ณ ตำแหน่งนี้ก็ยังคงอยู่ในหลักการนั้น ผมจึงตั้งมั่นอยู่เสมอว่าจะต้องพลิกการศึกษาไทยให้ได้...” 

...“สิงห์ ราชดำเนิน” เชื่อว่าข้าราชการ บุคลากร ผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการ คงเห็นและรู้สึกได้ในช่วงที่ ผ่านมากว่า 1 ปีครึ่ง กับสิ่งที่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้วางรากฐานไว้..ส่วนการจะถือเป็นแบบฉบับนำไปสานต่อตามที่ อดีต รม.ศธ. หวังหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อ..อยากบอกกลับไปสั้นๆ ว่า ละคร “ยุทธการเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” จบแล้วอย่างบริบูรณ์แล้วจริงๆ ดังนั้น การถวิลหาความหลังที่ผ่านเลย โปรดได้ปล่อยวาง...

...เมื่อโยงกับเรื่องราวเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ กระแสร้าวใน พรรคพลังประชารัฐ มีปฏิกิริยาไม่พอใจในตัว ‘ณัฏฐพล’ ที่ทำตัวเหมือนเป็นเด็กไม่น่ารัก หลังยืนยันจะส่ง ‘มาดามอีฟ’ ทยา ทีปสุวรรณ ศรีภรรยา ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แบบยอมหักไม่ยอมงอ มาถึงผลพวงการถูก ‘ตัดสิทธิทางการเมือง’ ทั้งคู่โดยอัตโนมัติ เท่ากับเป็นการดับฝันและให้ บทเรียนนักการเมืองรุ่นหลัง พึงเรียนรู้จดจำให้ขึ้นใจ อย่าหักหาญคิดการใหญ่ หากตัวเองไม่ยิ่งใหญ่จริง...

...ย้อนมาดูทันทีหลังไร้เสนาบดีใน ศธ. กว่าจะรู้ชัดใครตัวจริงเสียงจริง แปลกใจ ทำไมมองข้าม คุณหญิงโค้ดดิ้ง คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ. ดูแล้วค่อนข้างจริงจังมุ่งมั่นในเนื้องานหลักมาตั้งแต่แรก ขนาดนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังยอมรับ ถึงกับแต่งตั้งเป็น ประธานคณะกรรมการโค้ดดิ้งแห่งชาติ เชื่อมโยงกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ และทุกภาคส่วนรัฐบาล เมื่องานดีถึงขนาดนี้จะบอกว่าไร้ฝีมือ ไม่อยู่ในสายตาบ้างก็ใจร้ายเกินไปแหละ...

...ขณะที่ กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ. ก็พอจะมีผลงานยอมรับได้ เมื่อบวกกับความขยันออกหมัด แต่ไม่ค่อยได้คะแนน ทั้งๆ ที่ บรรดาเทรนเนอร์กุนซือที่ปรึกษา ทั้งหลายต่างช่วยกันป้อนงานก็แล้ว จึงชักเป็นห่วงตามที่ข้าราชการ ศธ.บอกมาด้วยความรักและห่วงใยถึง กุนซือบางท่าน บางครั้งบางคราวเผลอคิดว่าเป็น รมต.เงา แบบบางบ้างหนาบ้าง เห็นได้จากมีอาการหลุดอยู่ในบางโอกาส..โถๆๆ คิดมากไปรึเปล่า...

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

...แล้วได้เวลา ฝุ่นตลบกับเก้าอี้รัฐมนตรี ศธ.ที่ว่าง แรกนั้นมีชื่อ "อาจารย์แหม่ม" นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ มาเต็ง  1 แต่ไม่ทันข้ามครึ่งวันมีชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โผล่จะมานั่งในตำแหน่งอีกคน...

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ชื่อ อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ เลขาธิการพรรค พปชร. ติดโผโผล่เข้ามาชนิดใน ศธ.ส่งกันว่อน..แล้วจู่ๆ มีข่าวนอกกรอบเขย่าชื่อ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง อาจจะขยับไปนั่งรอเป็น รมว.ศึกษาธิการ ด้วยการสลับเก้าอี้กับ อาจารย์แหม่ม ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง หากจริงดังว่า บอกคำเดียวว่า ศธ.สนุกกว่าที่ผ่านมาเยอะ ทีเดียว...เฮ้อ ล้วนพิสูจน์ค่าของคนที่มีอาชีพนัการเมือง อยู่ที่ว่าเป็นคนของใครมากกว่า ผลประโยชน์ชาติ...

อนุชา นาคาศัย

สันติ พร้อมพัฒน์

...จับทีท่าของ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท) แปลกใจไม่มีการแสดงชื่อว่าผู้ใดเป็นประธานแถลง แจ้งสเปกคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. มี 5 ข้อ “สิงห์ ราชดำเนิน” เห็นแล้วน่าจะฟุ้งไปหน่อย...ที่ว่าเอาแค่ ขอให้มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ตรวจสอบได้ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทางด้านการศึกษาพอสมควร ก็พอ..ถ้ามากคุณสมบัติกว่านี้ คงยากที่จะหาได้...

...ขณะที่ เศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) กางสเปค รมว.ศธ.ในฝัน ที่อยากได้ ควรมีความรู้ความสามารถทางการบริหารศึกษาเป็นอย่างดี เข้าใจและสนับสนุนการศึกษาด้านอาชีวศึกษา มีการบริหารที่มีธรรมาภิบาล โปร่งใส มืออาชีพ ซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม...ก็ว่ากันไป ยังไม่มีอะไรใหม่ไปกว่าเดิมๆ... 

...ความจริงแล้ว น่าจะเติมคุณสมบัติคนที่จะมาเป็น รมว.ศธ. ด้วยว่า บุคคลผู้นั้นและวงค์ตระกูล อย่างน้อย ต้องไม่เคยประกอบอาชีพ หรือ ดำเนินกิจการ ที่ข้องเกี่ยวกับการ ละเมิดทางด้านคุณธรรม  จริยธรรม และ ศีลธรรมอันดี มีเกียรติประวัติ ไม่เคยมีร่องรอยด่างพร้อยให้สังคมกังขา เป็นที่น่าเชื่อถือได้ในสังคม เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องเข้ามารับผิดชอบเด็กและเยาวชนของชาติ จึงต้องเป็นแบบอย่างทั้งประเทศ...

...แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าใครจะมาจากไหน อดีตจะเป็นอย่างไร คน ศธ.ทั้งที่เคยค้าน ก็ยังยอมไป ยืนต่อแถวแสดงความยินดีต้อนรับ มอบช่อดอกไม้ ชนิดล้นหลามออกมาถึงหน้ากระทรวงดังเคย...

...และอย่างน้อยข่าวการเสนอตัวเพื่อได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างลง ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของนักการเมืองได้ชัดเจนว่า ตราบใดที่ ส.ส.ไม่ได้ยึดติดกับประชาชน แต่ไปยึดติดกับตำแหน่งรัฐมนตรี และการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง มีแต่จะทำให้ เกิดความเสื่อมถอย ต่อตัวบุคคลและพรรคการเมืองนั้นๆ ในที่สุด...

 สุภัทร จำปาทอง

...หันมาดู แผนบูรณาการการศึกษาจังหวัด หลังอดีต รมว.ศธ. "ณัฏฐพล" พ้นหน้าที่รัฐมนตรี..ต้องชื่นชม สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. ที่ยังคงประกาศเดินหน้าสานต่อนโยบาย แว่วว่า ดำเนินการคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% และเตรียมวางกรอบแนวทางเสนอให้ รมว.ศธ.คนใหม่ พิจารณาแล้วด้วย เรียกว่า ไม่เสียของ ต้องไปให้ถึงที่สุด ไม่งั้นจะไม่รู้ว่าดีจริง หรือแค่คิดฝันกันเอาเอง...

...ขณะที่  อัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ดูจะรอทีท่า รมว.ศธ.คนใหม่ มากกว่าแข็งขัน อาจเป็นเพราะความไม่ค่อยมั่นใจว่า นายใหม่จะเอาด้วยกับนโยบายนี้หรือไม่ สังเกตจากอาการที่บอกว่า พร้อมทำงานสนองนโยบาย 'รมว.ศธ.' คนใหม่ หากตีความออกมาแล้ว ท่านเป็นข้าราชการที่ดีนะ..แต่หากจะมีการเตรียมข้อเสนออะไรออกมาบ้าง จะดีกว่าไหม เพราะทุกอย่างไปไกลตั้งค่อนทางแล้ว...

...มาฟังเสียง สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการ กอศ. ให้คำฉะฉานแบบเต็มร้อยกับการร่วมงานกับ รมว.ศธ.คนใหม่ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมองความสำคัญของอาชีวะในเรื่องการผลิตผู้เรียนให้มีคุณภาพ และมองการขับเคลื่อนอาชีวะเป็นงานสำคัญ เพราะผลผลิตที่ออกมาจะเป็นคำตอบของ การพัฒนาประเทศ ในที่สุด...

หยิกแก้มหยอก สวัสดีครับ

EdunewsSiam : หยิกแก้มหยอก

yoodchat2010@gmail.com

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)