คุรุสภายันประกาศผลตั๋วครู ก่อนปิดรับสมัครสอบ 'ครูผู้ช่วย สพฐ.' 31 มี.ค.นี้

ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากที่สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ได้ยื่นหนังสือขอให้คุรุสภาช่วยประสานสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. เร่งประกาศผลการทดสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้เร็วขึ้น พร้อมประสานมหาวิทยาลัยต้นสังกัดขอผลการประเมินสมรรถนะและรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษา ให้ได้ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2564

เพื่อให้ครูอัตราจ้างสามารถสมัครสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ซึ่งจะปิดรับสมัครในวันที่ 31 มีนาคม 2564 นี้นั้น

ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ประสานไปยัง สทศ.เรียบร้อยแล้ว โดย สทศ.ยืนยันสามารถตรวจข้อสอบได้เร็วกว่ากำหนด และจะส่งข้อมูลให้กับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ในวันที่ 22 มีนาคม 2564   

นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภายังได้ประสานไปยังสถาบันผลิตครูที่จัดการศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ปริญญาโท และปริญญาเอกทางวิชาชีพครูที่คุรุสภารับรอง ปีการศึกษา 2562 เพื่อดำเนินการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนของนิสิตนักศึกษาในหลักสูตร และขอให้ส่งผลการประเมินฯและรายงานผลต่อเลขาธิการคุรุสภาภายในวันที่ 15 มีนาคม 2564 นี้

จากนั้นทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะนำผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ เสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในการประชุมครั้งที่ 4/2564 ในวันที่ 23 มีนาคม 2564 เพื่อพิจารณารับรองผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ

พร้อมทั้งพิจารณากรณีผู้มีสิทธิสอบที่ปฏิบัติฝ่าฝืนประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง ระบบ วิธีการ ขั้นตอนและเงื่อนไขการลงทะเบียน บันทึกข้อมูล และสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯว่า จะมีมาตรการลงโทษอย่างไรด้วย

ก่อนที่จะนำผลการรับรองทั้งหมดเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาในวันที่ 26 มีนาคม 2564 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการรับรองผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯต่อไป

ดังนั้น ขอให้ผู้สมัครสอบบรรจุตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะคุรุสภาได้เตรียมประกาศผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯให้เร็วกว่ากำหนดการเดิมแน่นอน เพื่อไม่ให้ผู้ผ่านการทดสอบฯเสียโอกาสในการสมัครสอบครั้งนี้

ดร.ดิศกุลกล่าวต่อว่า สิ่งที่คุรุสภากังวลและขอให้ผู้เข้าสอบเข้าใจให้ตรงกัน คือเรื่องการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในส่วนการสอบวิชาเอกที่ผู้เข้าสอบจะต้องสอบวิชาเอกที่ตรงกับวิชาที่ปฎิบัติการสอน เพราะถ้าไม่ตรงกันจะถือว่าการสอบวิชาเอกนั้นเป็นโมฆะ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เข้าสอบหมดสิทธิที่จะขอรับใบอนุญาตฯ และจะต้องมาสอบวิชาเอกใหม่

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รอการประกาศผลการทดสอบฯ ขอฝากนิสิตนักศึกษาที่เข้ารับการทดสอบฯได้เตรียมความพร้อมด้วยการสมัครสมาชิกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (KSP Self-Service) ทางเว็บไซต์ของคุรุสภา www.ksp.or.th ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2564 เพื่อยื่นคำขอออนไลน์ได้ทันในการสมัครสอบ ซึ่งสามารถยื่นคำขอออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  

ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กรณีสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรที่คุรุสภาให้การรับรอง มีดังนี้ ผู้สําเร็จการศึกษาให้ตรวจสอบรายชื่อผ่านทางมหาวิทยาลัย/สถาบันที่สําเร็จการศึกษา เพื่อขอรับเลขที่ส่งข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษา

ส่วนกรณีผู้สําเร็จการศึกษาที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 จะต้องผ่านการทดสอบ 5 วิชา และประเมินสมรรถนะตามที่คุรุสภากําหนด จากนั้นให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตฯผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง ทางเว็บไซต์ https://selfservice.ksp.or.th ให้เลือกหัวข้อ ขอขึ้นทะเบียนใบอนุญาตครู KSP Bundit”         

เลขาธิการคุรุสภายังกล่าวชี้แจงเกี่ยวกับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูว่า  คุรุสภาได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 โดยได้กำหนดเป็นเงื่อนไขในการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพว่า ผู้สำเร็จการศึกษาจะต้องผ่านการทดสอบตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562

และได้ออกประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ.2563 ที่กำหนดดำเนินการครั้งแรกกับผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรผลิตครูทุกระดับและทุกหลักสูตรที่คุรุสภารับรอง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการทางการศึกษาและสังคมว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีจิตวิญญาณความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด ซึ่งได้มีการจัดทดสอบครั้งแรกไปแล้ว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)