ร้อง'ป.ป.ช.-รมว.ศธ.คนใหม่' สอบโครงการ สพฐ.ซื้อสื่อการศึกษา แซด!มีเงื่อนงำ

“แกนนำครู” ส่งหนังสือร้อง ป.ป.ช.-รมว.ศธ.คนใหม่ ตรวจสอบโครงการ สพฐ.ซื้อสื่อการศึกษา แซดกล่าวหาส่อเอื้อสเปกบางบริษัท เผยอีกกรณี!ผู้ปกครองจ่อฟ้องอาญา 157 ซื้อหนังสือแจกนักเรียนไม่ครบรายวิชา

นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหญ่จากเขตพื้นที่การศึกษา เป็นคณะทำงานจำนวนนับร้อยคน เพื่อจัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (สเปก) ครุภัณฑ์สื่อการศึกษา ซึ่งเป็นรายการจัดซื้อด้วยงบประมาณก้อนโต ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด

ส่ออาจเข้าข่ายเป็นการบริหารการศึกษาที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 258 จ. (4) ที่กำหนดให้แก้ไขปัญหาการศึกษาที่ตกต่ำ โดยการปรับปรุงการเรียนการสอนในทุกระดับชั้นให้สอดคล้องกับความถนัดของผู้เรียนที่มีความแตกต่างกัน 

ซึ่ง สพฐ.จะต้องจัดซื้อหนังสือและแบบเรียนให้ครบทุกรายวิชา โดยให้เป็นหนังสือและแบบเรียนใหม่ทั้งชุด เพื่อแจกเด็กนักเรียน แต่ที่ผ่านมาในแต่ละปีการศึกษานักเรียนจะได้รับแจกหนังสือเรียนเพียง 3-4 กลุ่มสาระเท่านั้น ทั้งๆ ที่การจัดการเรียนการสอนรายวิชาพื้นฐานเฉพาะชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามประกาศหลักสูตรให้นักเรียนได้เรียนรู้ 8 รายวิชา หรือ 8 กลุ่มสาระ 

สพฐ.จึงควรจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ มากกว่าจะไปจัดซื้อสื่อการศึกษาดังกล่าว เพราะถ้าไม่มีหนังสือและแบบเรียนแล้ว นักเรียนจะเรียนได้อย่างไร ต้องเดือดร้อนไปถึงผู้ปกครองและครูผู้สอน นับว่าเป็นการบริหารที่ผิดพลาดมาโดยตลอด บริหารโดยไม่ยึดตัวบทกฎหมายขัดแย้งกับคำว่าเรียนฟรี 12 ปี 

“การจัดซื้อสื่อการศึกษาต้องมาภายหลังจากที่ได้ซื้อหนังสือและแบบเรียนแจกให้เด็กนักเรียนได้ครบทุกคน และครบทุกรายวิชาทั้ง 8 รายวิชา แล้วจึงจะถูก”

นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ กล่าวด้วยว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์สื่อการศึกษาของ สพฐ.ดังกล่าว ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาในช่วงเวลานี้ว่า อาจมีการกำหนดสเปกที่ส่อเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางรายหรือไม่? โดยเฉพาะในรายการเครื่องคอมพิวเตอร์สเปกสูง ซึ่งในอดีตเคยทำร้ายข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ) มาแล้ว 

ตนจึงเป็นห่วงว่า การจัดซื้อครั้งนี้จะทำร้ายตัวผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) หรือไม่? เพราะต้องเป็นผู้จัดซื้อตามที่ สพฐ.มอบหมาย อาจต้องเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องจากบริษัทผู้ผลิตสื่อการศึกษาที่แพ้การประมูลจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่? 

"ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากการดำเนินการจัดซื้อสื่อการศึกษาของ สพฐ.ดังกล่าว มีเงื่อนงำความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นจริงตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหา"

ตนจึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว รวมทั้งยื่นหนังสือถึงนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คนใหม่ ให้สั่งการ สพฐ.ยกเลิกโครงการจัดซื้อสื่อการศึกษาดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง เอื้อสเปกให้กับบริษัทเอกชนบางรายจริง

สานิตย์ พลศรี

นายสานิตย์กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการซื้อหนังสือและแบบเรียนแจกเด็กนักเรียนครบทุกคนและครบทุกรายวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามนโยบายเรียนฟรี 12 ปีนั้น เรื่องนี้สมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองและครูผู้สอนมาโดยตลอดว่า มีนักเรียนจำนวนมากได้รับหนังสือและแบบเรียนไม่ครบทุกวิชา

"ผู้ปกครองต้องเดือดร้อนหาเงินมาซื้อหนังสือและแบบเรียนให้กับลูกหลาน ในส่วนของโรงเรียนและครูผู้สอนก็ต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น คุณภาพการศึกษาที่ออกมาจึงไม่ดีเท่าที่ควร"

ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยทำหนังสือร้องเรียนปัญหาถึง สพฐ.มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 สมัยนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรื่อยมาจนถึงสมัยนายอำนาจ วิชยานุวัติ เป็นเลขาธิการ กพฐ. จนกระทั่งถึงสมัยนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. คนปัจจุบัน  

โดยสมัยนายอำนาจ ได้ตอบรับหนังสือถึงตนตามหนังสือที่ ศธ 04006/2606 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เรื่องขอร้องเรียนให้ สพฐ.ดำเนินการจัดซื้อหนังสือและแบบเรียนในสถานศึกษาให้ครบทุกรายวิชา 

ซึ่งได้แจ้งว่า สพฐ.ได้จัดทำแนวทางการดำเนินงานตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2553 จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่า จะจัดสรรงบประมาณจัดซื้อให้ได้ครบทุกรายวิชาและทุกกลุ่มสาระ

อัมพร พินะสา 

ส่วนสมัยนายอัมพร ตนก็ได้ยื่นหนังสือร้องขอให้ดำเนินการจัดซื้อหนังสือและแบบเรียนแจกเด็กนักเรียนให้ครบทุกรายวิชาเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด 

ดังนั้น หาก สพฐ.ยังไม่ดำเนินการให้อีก ตนจะประสานให้ผู้ปกครองนักเรียนได้ยื่นฟ้องต่อศาล เอาผิดอาญาผู้เกี่ยวข้องตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

“เรื่องนี้คงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งกลุ่มผู้ปกครองเองเคยมาปรึกษาเรื่องนี้กับผม แต่ผมบอกขอให้รอก่อน แต่หากถึงเวลาก็คงต้องปล่อยให้ผู้ปกครองดำเนินการฟ้องร้องตามความประสงค์ ซึ่งคงเป็นคดีตัวอย่างในวงการศึกษาไทย” นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)