เปิด รพ.สนามในสังกัด อว.แล้ว 870 เตียง สู้ภัยโควิด-19 ระลอกใหม่

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมแถลงข่าวการเปิดโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ 470 เตียง ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เมื่อเร็วๆ นี้ 

โดย รมว.อว.กล่าวว่า อว.มีสรรพกำลังทางการแพทย์และสาธารณสุขจำนวนมาก มีคณะแพทยศาสตร์ 22 แห่ง และคณะพยาบาลศาสตร์ 39 แห่งทั่วประเทศ บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลสังกัด อว.ทุกแห่ง พร้อมเป็นกำลังเสริมช่วยรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิดระลอกสามให้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากที่ประเทศไทยทำสำเร็จมาแล้วในการรับมือการระบาดทั้งสองรอบที่ผ่านมา

ปัญหาเฉพาะในวันนี้คือการระบาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่อาจมีอาการป่วยไม่รุนแรง เข้ารับการตรวจและรักษาในโรงพยาบาลทั้งของภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ จนทำให้จำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีการติดต่อได้ง่ายมีไม่มีเพียงพอ

ตนจึงปรึกษา รพ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีประสบการณ์เป็น รพ.สนามแห่งแรกของไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว มีการเปิดและปิดโรงพยาบาลสนามมาแล้วสองรอบ ตามระลอกการระบาดของโควิดในไทย และสั่งการให้ รพ.ธรรมศาสตร์เปิด รพ.สนามอีกครั้ง

โดยในครั้งนี้ รพ.ธรรมศาสตร์มีความพร้อมเปิด รพ.สนาม มีบุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่รุนแรงได้ถึง 470 เตียง และพร้อมรับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วยให้โรงพยาบาลอื่นๆ มีจำนวนเตียงเหลือเพียงพอในการรับผู้ป่วยโควิดเพิ่มเติม

รมว.อว.กล่าวต่อว่า นอกจาก รพ.สนามธรรมศาสตร์แล้ว ตนยังได้ติดต่อ รพ.รามาธิบดี และได้รับแจ้งว่า รพ.รามาธิบดีจะเปิด รพ.สนาม โดยใช้อาคารจักรีนฤบดินทร์ มีขนาด 400 เตียง ทำให้อย่างน้อยจะมี รพ.สนามในสังกัด อว. ที่มีจำนวนเตียงไม่ต่ำกว่า 870 เตียง

ประกอบกับ รพ.สนามในสังกัดของ กทม.อีกไม่ต่ำกว่า 300 เตียง และ รพ.สนามในสังกัดของทางทหารอีกไม่ต่ำกว่า 3000 เตียง น่าจะเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยโควิดในระลอกนี้ นอกจากนี้ อว.ยังมีมหาวิทยาลัยอยู่ทั่วประเทศที่พร้อมเปิดพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม และมีบุคลากรทางการแพทย์พร้อมสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่

ตนขอเน้นย้ำและขอให้ประชาชนทุกคนไม่ตื่นตระหนกและไม่แตกตื่น รวมทั้งอย่าตกใจกับ “ดราม่า” ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยขอให้มีความมั่นใจในระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งของประเทศไทย ขอให้เชื่อม้่นในความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ของไทย

"ขอเพียงให้ประชาชนตระหนักในการระมัดระวังป้องกันตัวเองตามมาตรการของภาครัฐ เชื่อว่าจะช่วยให้สถานการณ์โควิดระลอกใหม่นี้ควบคุมได้ เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน” ดร.เอนก กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)