อว.วางแผนเปิดรั้วมหาวิทยาลัยทั่ว ปท. 3 ระยะ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้

 

ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และโฆษกกระทรวง อว. เปิดเผยถึงแนวทางและหลักเกณฑ์การเปิดมหาวิทยาลัยทั่วประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2564 ว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 เริ่มคลี่คลายดีขึ้น

รัฐบาลได้กำหนดวิธีปฏิบัติเพื่อที่จะสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ โดยมีมาตรการดูแลที่เหมาะสม รวมถึงการใช้อาคารสถานที่ของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยให้มีการประเมินร่วมกันกับทางการแพทย์และสาธารณสุข

ซึ่งจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2564 อนุญาตเฉพาะคณาจารย์ บุคลากร นักวิจัย และนิสิตนักศึกษาที่เข้ามาปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอน หรือทำกิจกรรมในพื้นที่สถาบันอุดมศึกษา

ระยะที่ 2 เดือนธันวาคม 2564 กำหนดจำนวนผู้ที่เข้ามาในพื้นที่สถาบันอุดมศึกษา โดยคำนึงถึงการป้องกันการติดเชื้อและภูมิคุ้มกันของผู้ปฏิบัติ เช่น มีผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 90 ของบุคคลทั้งหมดที่เข้ามาในสถาบันอุดมศึกษา

และระยะที่ 3 เดือนมกราคม 2565 กำหนดจำนวนของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่สถาบันอุดมศึกษา โดยระยะที่ 1 กำหนดไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ในสถานการณ์ปกติ ระยะที่ 2 ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ในสถานการณ์ปกติ และระยะที่ 3 ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของของภาครัฐหรือพื้นที่ในขณะนั้น

"อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าว รมว.อว.ได้ประชุมหารือร่วมกับตัวแทนอธิการบดีทั้ง 4 ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) ผ่านระบบออนไลน์แล้ว พร้อมมอบนโยบายเน้นย้ำให้ใช้มาตรการเฝ้าระวังสูงสุด โดยต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 สถาบันอุดมศึกษาสามารถเปิดได้ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแต่ละพื้นที่สามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสม" 

เลขานุการ รมว.อว.และ โฆษก อว.กล่าวต่อว่า สำหรับการเข้ามาปฏิบัติงาน จัดการเรียนการสอน หรือทำกิจกรรมกลุ่ม ได้มีการจำแนกตามพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไม่เกินกลุ่มละ 25 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุดไม่เกินกลุ่มละ 50 คน พื้นที่ควบคุมไม่เกินกลุ่ม 100 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูงไม่เกินกลุ่มละ 200 คน และพื้นที่เฝ้าระวังไม่เกินกลุ่มละ 500 คน

ทั้งนี้ สถาบันอุดมศึกษาสามารถกำหนดเกณฑ์เพิ่มเติมหรือลดหย่อนเกณฑ์บางอย่างได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ของสถาบันอุดมศึกษาเป็นสำคัญ 

“การตัดสินใจเปิดสถาบันอุดมศึกษา อยู่ที่การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมและให้มีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน การเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีสร้างสรรค์ การเรียนรู้ทั้งแบบออนไซด์และออนไลน์ ส่วนการจัดการเรียนการสอนจะต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ปรับรูปแบบกิจกรรมมุ่งสู่วิถีชีวิตแนวใหม่” ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)