'คณบดี ราชภัฏยะลา' จับมือ วช. หนุนงาน ศอ.บต.สู้โควิด-ความยากจน

ดร.นันทรัตน์ นามบุรี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นันทรัตน์ นามบุรี คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เปิดเผยว่า ได้รับทุนวิจัยจากสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รับบริหารจัดการ "โครงการวิจัยเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้" จำนวน 11 โครงการ ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่เสนอขอรับทุนวิจัยจาก วช.ผ่านศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9.54 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์เชิงนโยบายและการสร้างความร่วมมือ ตลอดจนการแก้ปัญหาเฉพาะเรื่อง

เช่น (ก) การแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคลำต้นและผลแคงเกอร์ของแก้วมังกรในอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส (ข) การพัฒนารูปแบบและกลไกการสื่อสารตามอัตวิถี ความเชื่อและพฤติกรรมทางสังคมของชุมชนพหุวัฒนธรรม ในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID 19 (ค) การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฯลฯ

ผศ.ดร.นันทรัตน์ กล่าวต่อว่า นักวิจัยที่ได้รับทุนได้ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อการณ์ดังกล่าว แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 โดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับท้องที่และท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนและกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ 

"วช.และ ศอ.บต.ให้ความสำคัญและจะใช้โครงการทั้ง 11 โครงการดังกล่าวเป็นต้นแบบ หรือแนวทางเพื่อการต่อยอดและพัฒนา หรือขยายผล หรือวางกรอบเพื่อจัดทำ ยกร่างและจัดทำโครงการให้ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในลักษณะของโครงการที่เป็นความต้องการของชุมชน (demand driven projects) ซึ่งจะต้องได้รับการสนับสนุนจาก วช.ในปีงบประมาณ 2565" 

คณบดีคณะวิทยาการจัดการ ม.ราชภัฏยะลา กล่าวด้วยว่า ผลผลิตของโครงการวิจัยทั้ง 11 โครงการนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะการป้องกัน ลดทอนและแก้ปัญหาผลกระทบจากโรคโควิด-19

"มั่นใจอย่างยิ่งว่า หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องจะสามารถนำผลการวิจัย ซึ่งเป็นวิธีการ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ปัญหา ไปผูกโยงและให้ความสำคัญกับขนบ จารีต ประเพณี อันเป็นวิถีและความเชื่อของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งผลการวิจัยจะแล้วเสร็จและกำหนดนำเสนอต่อสาธารณะได้ในเดือนกันยายน 2564 นี้ ก่อนผู้เกี่ยวข้องจะนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป" 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)