6 พรรคชง กม.แก้คำสั่ง คสช.เข้าสภาสัปดาห์นี้ ยึดอำนาจ‘กศจ.-ศธจ.’ คืนเขตฯ สพฐ.

รองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาท ทองบุ

 

6 พรรคการเมือง'รัฐบาล-ฝ่ายค้าน'ผนึกกำลัง

ชงร่าง พ.ร.บ.แก้คำสั่ง คสช.เข้าสภาสัปดาห์นี้

ยึดอำนาจ‘กศจ.-ศธจ.’ คืนเขตพื้นที่ฯ สพฐ.

 

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 รองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาท ทองบุ ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบบบัญชีรายชื่อ และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับ สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ว่า สัปดาห์นี้จะมีร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2560 เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอพร้อมกับพรรคการเมืองรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านอื่นรวม 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา

รองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาท กล่าวว่า เหตุผลการเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมาตรการและกลไกตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีลักษณะรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คณะกรรมการ​ศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ทั้งอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ ศธ. และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งยังขัดต่อหลักการกระจายอำนาจการบริหารงานบุคคลสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา และก่อให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรงและขาดการยอมรับซึ่งกันและกันในองค์กร สมควรแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว (อ่านรายละเอียดในเอกสารประกอบข่าว)

ในร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2560 ได้บัญญัติการแก้ไขเพิ่มเติมรวม 7 ประเด็นสำคัญ อาทิ

1.ให้ อำนาจหน้าที่ของ กศจ.ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ ศธ. และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา (แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8(1))

2.ให้อำนาจหน้าที่ของ กศจ.ในการเสนอความเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ.ในภูมิภาค กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (เพิ่มเติมข้อ 8(5) วรรคสอง)

3.ยกเลิกอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดหรือกรุงเทพฯ ตามมาตรา 53(3 และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ของศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ. โดยความเห็นชอบของ กศจ. (ยกเลิกข้อ 13) (อ่านรายละเอียดในเอกสารประกอบข่าว)

ด้านนายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) และแกนนำเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.) กล่าวว่า แกนนำองค์กรครูเคยไปยื่นหนังสือเรียกร้องต่อศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้แก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 ซึ่งตอนนั้น ดร.วิษณุบอกว่า ไม่แก้ไขให้ แต่จะพิจารณาแก้ไขให้เมื่อมาตามช่องทางรัฐสภา

"ดังนั้น เมื่อทราบข่าวว่า สัปดาห์นี้จะมีร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2560 เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ผมจึงขอทวงสัญญาสุภาพบุรุษจากรองนายกฯ ดร.วิษณุด้วย"

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)