มีผลบังคับใช้แล้ว! กยศ.ยกเลิกผู้ค้ำประกันสัญญากู้ยืมใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 64 พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สู้ภัยโควิด-19 ‘ลูกหนี้ชั้นดี’ ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01%
สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานความคืบหน้ากรณีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กระทรวงการคลัง ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุน ในการทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป ว่า ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและการชำระเงินคืนกองทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564
ซึ่งมีสาระสำคัญคือ กองทุน กยศ.ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันในการทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กระทรวงการคลัง ได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สู้ภัยโควิด-19 โดยลดอัตราดอกเบี้ยให้ผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระเหลือ 0.01% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564–31 ธันวาคม 2564 พร้อมเพิ่มและขยายระยะเวลามาตรการสู้ภัยโควิด ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 รวมถึงชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดชำระหนี้ประจำปี 2563 และปี 2564 และงดการขายทอดตลาดจนถึงสิ้นปี 2564 เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน
คณะกรรมการกองทุนฯได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุน สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับอนุมัติให้กู้ยืมเงินและทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับอนุมัติให้กู้ยืมเงินและทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 ดังนี้
- ผู้กู้ยืมรายใหม่
- ผู้กู้ยืมรายเก่าที่เปลี่ยนระดับการศึกษา เช่น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เปลี่ยนระดับการศึกษาไปมหาวิทยาลัย, ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เปลี่ยนระดับการศึกษาไปประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เปลี่ยนระดับการศึกษาไประดับปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ,ระดับปริญญาตรี เปลี่ยนระดับการศึกษาไป ระดับปริญญาโท เป็นต้น
- ผู้กู้ยืมเงินรายเก่า ที่เปลี่ยนสถานศึกษา เปลี่ยนหลักสูตร หรือ เปลี่ยนลักษณะการกู้ยืม เป็นต้น
1. ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี เป็นการเฉพาะกิจ สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัด
ชำระหนี้ (ปกติกองทุนคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงเหลือ) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564
2. ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมสู้ภัยโควิด จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย
- ลดเบี้ยปรับ 100% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกรายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดี ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
ผู้กู้ยืม |
วิธีการ / ช่องทางการชำระหนี้ |
ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี |
เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
|
ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดี |
- ลงทะเบียนขอรับสิทธิส่วนลดเบี้ยปรับที่ https://www.studentloan.or.th/promotion - เมื่อผู้กู้ยืมเงินได้แจ้งความประสงค์ขอปิดบัญชี โดยขอลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 กรณีปิดบัญชีในคราวเดียวในวันใด ให้ผู้กู้ยืมเงินตรวจสอบจำนวนเงินที่ต้องชำระหนี้ปิดบัญชี และทำการชำระหนี้ปิดบัญชีที่สาขาธนาคารกรุงไทย /ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ในเวลาทำการของธนาคาร ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ของวันที่นัดชำระหนี้เท่านั้น หากผู้กู้ยืมเงินได้ตรวจสอบจำนวนหนี้แล้ว พบว่ากองทุน ยังมิได้มีการลดเบี้ยปรับให้ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กองทุนโดยเร็ว (เบอร์โทรศัพท์ 0-2016-2600 ต่อ 550 - 588) หรือ Line บัญชีทางการ กยศ. คดีและบังคับคดี ทั้งนี้หากผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีในวันที่ได้นัดชำระหนี้ ถือว่าผู้กู้ยืมเงินทำผิดเงื่อนไขและจะไม่ได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ โดยกองทุนจะนำส่วนลดเบี้ยปรับที่ลดให้ เพิ่มกลับเข้าไปในบัญชีลูกหนี้เช่นเดิม หากผู้กู้ยืมเงินประสงค์ขอส่วนลดเบี้ยปรับอีก ให้ทำการลงทะเบียนใหม่ตามขั้นตอนที่กองทุนกำหนด |
- ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ
ลำดับ |
วิธีการ / ช่องทางการชำระหนี้ |
1. |
เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา |
2. |
แอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือแอปพลิเคชัน เป๋าตัง * ตรวจสอบยอดหนี้ก่อนชำระได้ที่ แอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือ https://wsa.dsl.studentloan.or.th |
3. |
ชำระเงินผ่าน Mobile Banking ทุกธนาคาร โดยใช้ QR Code จากแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” ผู้กู้ยืมต้องทำการชำระหนี้ในวันที่สร้าง QR Code เท่านั้น ยกเว้นการทำรายการในช่วงเวลา 23.00 – 06.00 น. เนื่องจากระบบปิดให้บริการ |
- ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ โดยชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
ลำดับ |
วิธีการ / ช่องทางการชำระหนี้ |
1. |
เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา |
2. |
แอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือแอปพลิเคชัน เป๋าตัง * ตรวจสอบยอดหนี้ก่อนชำระได้ที่ แอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือ https://wsa.dsl.studentloan.or.th |
3. |
ชำระเงินผ่าน Mobile Banking ทุกธนาคาร โดยใช้ QR Code จากแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” ผู้กู้ยืมต้องทำการชำระหนี้ในวันที่สร้าง QR Code เท่านั้น ยกเว้นการทำรายการในช่วงเวลา 23.00 – 06.00 น. เนื่องจากระบบปิดให้บริการ |
- ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
3. ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดชำระหนี้ประจำปี 2563 และปี 2564 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความในปี 2564
4. งดการขายทอดตลาด ทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงิน และ/หรือผู้ค้ำประกัน ที่กองทุนได้ขอให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ไว้จนถึงสิ้นปี 2564 โดยกองทุนจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืมเงิน และ/หรือผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้รับจำนองที่ยึดไว้ (ถ้ามี)
ดูรายละเอียดมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0-2016-4888
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)