ส.ส.ก้าวไกลร้องอีก! กมธ.ศึกษาเชิญ"ตรีนุช"ถกแก้ปัญหา ร.ร.ขาด'ครู-ผอ.-ธุรการ'

 

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ดร.สุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากที่ตนได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาในการบริหารจัดการศึกษา พบว่าโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวนมากขาดแคลนครู ผู้อำนวยการ ธุรการ และภารโรง

จำนวนหลายโรงเรียนมีความเดือดร้อน ต้องใช้เงินผ้าป่ามาจัดจ้างครูอัตราจ้าง ซึ่งมีอยู่น้อยนิด เนื่องจากศิษย์เก่าของโรงเรียนไปประกอบอาชีพในต่างจังหวัด ใน กทม.และปริมณฑล ประกอบกับประเทศประสบปัญหาภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ซ้ำร้ายเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ส่งผลให้โรงเรียนที่ขาดผู้อำนวยการโรงเรียน จำเป็นต้องให้ครูในโรงเรียนซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่แล้วต้องมารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย หรือต้องแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนอีกแห่งมารักษาการ สร้างความยากลำบากให้กับรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเหล่านี้อย่างมาก

อีกทั้งอัตราครูเกษียณอายุราชการก็ไม่ได้รับการจัดสรรอัตราคืนมา แม้ได้คืนภายหลัง แต่ก็ล่าช้ามาก ตลอดจนมีกรณีต้องรอครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่นสอบให้ผ่านภาษาอังกฤษก่อน เป็นต้น ธุรการ ภารโรงที่เกษียณอายุราชการหรือลาออก ก็ถูกเรียกอัตราคืน ธุรการหลายคนถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่รวม 2 โรงเรียน ในขณะที่ได้รับเงินเดือนน้อยต่ำกว่าวุฒิการศึกษาและเงินเดือนออกไม่ตรงเวลา ทำสัญญาครั้งละ 1-2 เดือน สร้างความเดือดร้อน

"ทำให้โรงเรียนขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และส่งผลเสียหายต่อคุณภาพ นักเรียนจำนวนมากต้องเสียโอกาส เกิดความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นอย่างมาก"

ดร.สุรวาทกล่าวต่อว่า ดังนั้น ในวันเดียวกันนี้ (วันที่ 22 ธันวาคม 2564) ตนจึงอาสาเป็นตัวแทนครู ผู้บริหาร บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ขอให้เชิญ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)

ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ., ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.), รศ.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)

รวมทั้งผู้แทนคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.), ผู้แทนกรมบัญชีกลาง และผู้แทนสำนักงบประมาณ ได้มาปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางเร่งรัดปลดล็อคให้มีการจัดสรรอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ.กำหนด ในเกณฑ์ ว 23/2563 ให้ได้โดยเร็ว 

"นอกจากนี้ ผมยังพบปัญหาอัตราครูและบุคลากรในโรงเรียนมัธยมศึกษา และการให้ผู้อำนวยการโรงเรียน และรองผู้อำนวยการโรงเรียนมีชั่วโมงสอน 5-10 ชั่วโมง จึงได้ขอให้มีการพิจารณาทบทวนประเด็นทั้งสองนี้ รวมทั้งในเกณฑ์ ว 23/2563 นี้ไม่ได้มีการกำหนดว่าต้องมีภารโรงเลย จึงขอให้พิจารณาทบทวนประเด็นนี้ด้วย" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าว

อนึ่ง ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา รศ.สุรวาทได้ยื่นร้องเรียนแทนครูทั้งประเทศ ต่อนายนพคุณ รัฐผไท ประธาน กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรึกษาหารือเกี่ยวกับการลดภาระงานของครู

สืบเนื่องจากที่มีกระแสร้องเรียนเรื่องครูมีภาระงานล้นมือ เกินความสามารถของครูจะปฏิบัติงานได้ดี รวมถึงปัญหาเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะระบบ PA ซึ่งไปเบียดบังเวลาในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน และครูต้องรับผิดชอบงานหลายตำแหน่งจำนวนมาก จนมีครูบางคนตัดสินใจลาออก เพราะเหตุไม่สามารถทำการสอนได้ดีอย่างคุ้มค่ากับเงินเดือน

ซึ่งที่ประชุม กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องไว้และเชิญผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มาร่วมพิจารณาหาทางแก้ปัญหาเป็นวาระเร่งด่วน เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2564

แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏแนวทางหรือมาตรการแก้ไขปัญหาออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)