"ตรีนุช" เดินหน้าตีปี๊บ! On-site คือรูปแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ปลื้มหลายจังหวัดเปิดโรงเรียนทุกแห่งแล้ว ในขณะที่มีผู้ปกครอง-น.ร.บาง ร.ร.ที่ทยอยตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 20 รายแล้ว เรียกร้องให้ รมว.ศธ.สั่งอำนวยความสะดวกให้เรียน Online ที่บ้านได้
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่โรงเรียนเพลินพัฒนา กรุงเทพฯ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นโรงเรียนทางเลือก จัดการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ “ก้าวพอดี” โดยเด็กๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาไปตามธรรมชาติแห่งช่วงวัย
โดยทางโรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนแบบ On-site ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาได้รายงานว่า โรงเรียนได้กำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติในการเฝ้าระวังและป้องกันโรค โดยดำเนินการร่วมกับผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี จึงทำให้สามารถเปิดการเรียนการแบบ On-site ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่จะได้นำไปขยายผลกับโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ คือ ต้องการให้นักเรียนได้เรียนแบบ On-site ให้มากที่สุด และพยายามดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย พร้อมกันนั้นได้ย้ำนโยบายกับผู้บริหารระดับจังหวัดของ ศธ.ให้ประสานงานกับกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นประธานอย่างใกล้ชิด
เพราะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ศธ.ได้เปิดโอกาสให้แต่ละสถานศึกษาสามารถเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนได้ใน 5 On ตามความเหมาะสมกับบริบทของการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ได้แก่ On-Site การจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน, On-Demand การเรียนผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ, Online การเรียนผ่านอินเทอร์เน็ต , On-Hand การเรียนที่บ้านด้วยเอกสาร และ On-Air การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม ใช้สื่อของ DLTV และก็พบว่า รูปแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ การมาโรงเรียน
"ล่าสุดทราบว่า ขณะนี้สถานศึกษาในหลายจังหวัดได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้เปิดการเรียนการสอนแบบ On-site ได้แล้ว ในจำนวนนี้มีหลายจังหวัดที่เปิด On-site ทุกโรงเรียน"
นางสาวตรีนุชกล่าวด้วยว่า ตนได้ย้ำกับทุกโรงเรียนว่า เมื่อมีการเปิดเรียนแบบ On-site แล้ว ขอให้วางแผนจัดการเรียนการสอนเพื่อชดเชยกับสิ่งที่นักเรียนได้ขาดหายไปในช่วงเรียน Online หรือในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะการเรียนที่ต้องใช้การฝึกปฏิบัติ หรือการอภิปรายกลุ่ม ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียน On-site อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า ขณะนี้ยังคงมีกระแสร้องเรียนจากกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองในบางโรงเรียนผ่านไปถึง น.ส.ตรีนุช รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ระบุว่า มีบางโรงเรียนดำเนินการในลักษณะคล้ายการบังคับให้เด็กต้องมาเรียนที่โรงเรียน โดยไม่ได้เอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่เด็กได้เรียนผ่าน Online ที่บ้านเหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่โรงเรียนบางแห่ง เช่น ในพื้นที่ จ.นนทบุรี มีข้อมูลตรวจพบเด็กนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนทยอยติดเชื้อโควิด-19 รวมเกือบ 20 คนแล้ว
จนเมื่อเร็วๆ นี้ มีเด็กนักเรียนบางห้องเรียนไม่ไปโรงเรียนยกห้อง เพราะนักเรียนและผู้ปกครองกลัวว่า จะติดเชื้อและนำอันตรายร้ายแรงจากโรงเรียนไปสู่ผู้สูงอายุและเด็กเล็กในครอบครัวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน
จึงเกิดเป็นกระแสเรียกร้องให้ น.ส.ตรีนุช รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้ยึดนโยบายเดิม ที่ให้แต่ละโรงเรียนสามารถเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ละแวกโรงเรียนได้ทั้ง 5 รูปแบบดังกล่าว
ทั้งนี้ เพราะหากเกิดการติดเชื้อกับนักเรียนและคนในครอบครัวจนเป็นอันตรายร้ายแรง ก็ไม่มีใครที่ไหนมารับผิดชอบ มีแค่เพียงคำว่า "เสียใจด้วย" เท่านั้นเอง ดังที่มีเด็กนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบิดา มารดาและญาติพี่น้องด้วยโรคโควิด-19 ไปช่วงก่อนหน้านี้
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
