แกนนำครูร้อง"สภาทนายความ"วางมาตรฐานโทษทนายฟ้องคดีหนี้สินครูไม่เป็นธรรม

"แกนนำครู"ร้อง"สภาทนายความ"

วางมาตรฐานโทษ

ทนายฟ้องคดีหนี้สินครูไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ว่า ตนในฐานะนายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายกสภาทนายความ เรื่องมีผู้ประกอบวิชาชีพทนายความได้กระทำการโดยวิธีการเลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีโดยขาดหลักคุณธรรมและหลักธรรมาภิบาล ในกรณีที่สมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิได้รับการร้องเรียนจากครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวนมากในทั่วทุกภูมิภาค 

ซึ่งสาเหตุที่ร้องเรียนมีดังต่อไปนี้

1.ในกรณีผู้กู้เงินกับผู้ค้ำประกันนั้น ผู้กู้เงินอาจมีเพียง 1 คน ผู้ค้ำประกันบางสัญญาอาจมีจำนวนผู้ค้ำประกันหลายคน โดยขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ตามสัญญาของแต่ละสถาบันการเงิน รวมถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และที่สำคัญแต่ละสถาบันการเงินก็มีหลักเกณฑ์ ข้อบังคับ แนวปฏิบัติเป็นของตนเอง เมื่อเกิดเหตุผู้กู้เงินไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืม สถาบันการเงินหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในฐานะเจ้าหนี้ ได้ทำการยื่นฟ้องเพื่อบังคับคดี

โดยที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติ บางสัญญาไม่ยื่นฟ้องลูกหนี้ (ผู้กู้) แต่ยื่นฟ้องเพียงคนค้ำ (ผู้ค้ำประกัน) และบางสัญญาก็มีการเลือกคนค้ำเป็นรายเฉพาะที่มีหลักทรัพย์ เพื่อยื่นฟ้องยึดทรัพย์นั้นมาใช้หนี้แทนคนกู้ แต่ไม่ยื่นฟ้องผู้ค้ำประกันให้ครบทุกคนตามจำนวนผู้ค้ำประกันสัญญานั้นๆ

จึงทำให้ผู้ค้ำประกันที่โดนฟ้องเพียงบางคนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จากการกระทำของทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากเจ้าหนี้ให้ดำเนินการ แต่ทนายความผู้นั้นได้ดำเนินการโดยขาดหลักธรรมาภิบาลและหลักมนุษยธรรม ในลักษณะเลือกยื่นฟ้องเฉพาะผู้ค้ำประกันที่มีหลักทรัพย์ เพื่อยึดมาใช้หนี้แทนผู้กู้ดังกล่าว

2.การยื่นฟ้องในกรณีผิดสัญญากู้ยืมเช่นนี้ ในแนวทางที่ถูกต้อง ต้องดำเนินคดีทั้งผู้กู้เงินและผู้ค้ำประกันทุกคน จึงจะเกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่เลือกฟ้องเฉพาะคนค้ำประกันที่มีทรัพย์สิน จากการสืบทรัพย์ของทนายความ หรือของสถาบันการเงิน หรือของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู โดยอาจมีการวางแผนร่วมกันในการเลือกฟ้องบางคนที่เห็นว่า มีหลักทรัพย์เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทย์นั้น ถือเป็นการกระทำโดยเลือกปฏิบัติหรือไม่ ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลและหลักมนุษยธรรมหรือไม่

3.มีทนายความบางคน อาจทำมาหากินกับโจทย์หรือไม่? โดยมีการบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลย ผู้กู้เงินหรือผู้ค้ำประกัน โดยประเมินสินทรัพย์ในราคาต่ำ แล้วนำไปขายทอดตลาดในราคาสูง ทำให้จำเลยเจ้าของสินทรัพย์เหล่านั้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากทราบว่าจะมีวิธีการดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับทนายคนนั้น ได้หรือไม่?

4.หากพบกับประเด็นปัญหาในหลายคดีที่ทนายความยื่นฟ้องจำเลยโดยเลือกปฏิบัติได้ทำการฟ้องจำเลยไม่เป็นไปตามสัญญาเงินกู้ เลือกฟ้องจำเลยเป็นบางราย บางคดีไม่ฟ้องผู้กู้เงิน แต่ไปฟ้องเฉพาะคนค้ำประกันเท่านั้น เป็นการกระทำโดยชอบหรือไม่?

5.ขอร้องเรียนให้สภาทนายความได้ทำการวางแนวทางให้ทนายความทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนกลางอย่างเป็นธรรม ไม่เอนเอียงหรือสนับสนุนผู้กระทำความผิดให้เอารัดเอาเปรียบสังคม โดยให้ถือว่าทนายความผู้นั้นมีความผิดด้านจรรยาบรรณวิชาชีพทนายความด้วย โดยให้มีมาตรฐานโทษตามควรแก่กรณีต่อไป

คลิกชมคลิป รายการรู้ทันข่าว! ทุกข์ของครูผู้ค้ำประกันถูกฟ้องยึดทรัพย์เพื่อเอาไปชดใช้หนี้แทนคนกู้ (เพื่อนครู)

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)