วิจารณ์เดือดโซเชียล!
ออมสินมาอีกแล้ว ให้ครูกู้ 7 แสนบาท
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊กชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์ ได้โพสต์แชร์ลิงก์ข่าวการเงิน "ออมสิน ปล่อยกู้ 700,000 ลดภาระหนี้ข้าราชการครู ผ่อน 20 ปี" ของเว็บไซต์ https://money.kapook.com/ พร้อมทั้งได้ตั้งกระทู้ความเห็น “ออมสิน...มาอีกแล้ว...ให้กู้ 700,000 คนอายุ 50 ปีขึ้นไป และเอาเงิน ช.พ.ค.มาค้ำประกัน” สร้างความฮือฮาให้กับสมาชิกเฟซบุ๊กชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์
โดย ณ เวลาประมาณ 12.30 น.ของวันเดียวกันนี้ (วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ) หรือเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังมีการโพสต์แชร์ลิงก์ข่าวดังกล่าว สมาชิกเฟซบุ๊กชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้แล้ว 30 รายการ และมีการแชร์ต่ออีก 12 ครั้ง
ตัวอย่างการโพสต์แสดงความคิดเห็นสมาชิกเฟซบุ๊กชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์ อาทิ Suchada…“หนี้สินทั้งน้าน...คิดกันดีๆๆ” , รัตนาภรณ์..."แล้วพอครูเป็นหนี้ ก็มาค่อนแคะครู หยุดเถอะ เราเป็นสมาชิก ช.พ.ค.พูดง่ายๆ เรากู้เงินเราเอง แต่ดอกเบี้ยต้องจ่ายให้ธนาคาร พวกครูหยุดโง่เถอะ..." , ดาวเรือง..."ทวงหนี้เก่งยิ่งกว่าอะไร" , Rainny…“ดอกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งนั้น” , Pim…“ระวัง ค่าประกันเงินกู้…ยิ่งอายุมากขึ้น เงินประกันมากขึ้นตามอายุนะคะ”
กรุณา...“ไว้ใจได้ไหมนี่” , ครูตั้ม...“ลดภาระ หรือเพิ่มภาระ ยิ่งกู้มาก หนี้ยิ่งมาก ภาระยิ่งมาก” , Chanonchai…“คนอายุ 50 ขึ้น ควรทำตนปลอดหนี้สิน เวลาหมดวาระทำงานจะได้ไม่มีภาระค่ะ เน้นย้ำเช่นตนเองเป็นต้น” , ทิพย์...“ตอนนี้สบายๆ ใช้เงินบำนาญเต็มๆ ค่ะไม่มีหักอะไรนอกจากสะสมสหกรณ์สองทางจ้าไว้รับปันผลสิ้นปี” , “Saisita…“พอเหอะ ขูดเลือดกับปูทั้งนั้น ดอกเบี้ยท่วมจนมิดหัวแล้ว บอกว่าช่วยเหลือ...”
สุริยันต์...“ธนาคารนี้ใครถือหุ้นใหญ่นะ ถนัดหา...กับเด็กและคนแก่จริงๆ กู้ 700,000 ได้เงินกี่บาท เสียดอกเท่าไหร่ ประกันอีกเท่าไหร่ ตายไปแล้วยังเหลือหนี้ให้ลูกหลานอีกเท่าไหร่ อยากเตือนครู เป็นครูดีแล้วอย่าเป็นเหยื่อ” , ธุมเกตุ...“ช่าาาย ไม่เห็นช่วยครูตรงไหน” , กรุณา...“ช.พ.ค.สิบปีใช้หนี้ไปแต่ดอก ต้นเหลืออีกหลายแสน คงไม่กล้ากับ...แล้ว” , TeacherNat…"กู้ยันค่าทำศพตัวเอง เวรแท้ๆ"
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานด้วยว่า นอกจากสมาชิกเฟซบุ๊กชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์จะโพสต์แสดงความคิดเห็นจำนวนมากต่อข่าวดังกล่าวแล้ว ยังมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นต่อท้ายข่าวนี้ในเว็บไซต์ https://money.kapook.com/ ด้วย อาทิ
Dhana…"เดี๋ยวก็กู้อีก ครูยังไม่ได้กู้คือระเบิด..." , เดอะฟาด...“..ลดภาระหนี้หรือเพิ่มภาระหนี้กันแน่..กู้หนี้ใหม่โป๊ะหนี้เก่า กี่ชาติจะหมด ให้กู้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้น สงสัยผ่อนจนตายต้นก็ไม่หมด 5555 ถ้า...จริงใจจะช่วยลดภาระหนี้จริงๆ ช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้เก่าที่จ่ายแต่ละเดือน เหลือแค่ 1-2% /ปี ซิ ถึงเรียกว่าช่วยจริงๆ ทุกวันนี้เหมือนเสียแต่ดอกผ่อนมา 10 ปี เงินต้นลดไปแค่หลักหมื่น แถมหักทำประกันต่ออีกเรื่อยๆ ครั้งละเกือบหมื่น แล้วมาเพิ่มอยู่ในเงินต้น ดูแล้วตายไป 10 ชาติก็ไม่น่าจะใช้หมด” , S Wong…“ไม่ได้ช่วยจริงๆ หรอกหนา” , Khon…“ช่วยเพิ่มหนี้ให้ไง” , ยายดา...“ช่วยลดดอกเบี้ยให้น่าจะดีกว่านะ ถ้าอยากจะช่วยจริงๆ ทุกวันนี้จ่ายแต่ดอก หันไปดูต้น ยังงอกงามสะพรั่งเหมือนเดิม ฮ่วย อย่าได้เผลอไปกู้เข้าเชียว”
Paisan…“ไม่ช่วย ถ้ายังมีวินัยการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือย หลายคนไม่ได้กู้เพื่อลดปัญหาหนี้ แต่กู้เพื่อใช้เงินเพิ่มขึ้น” , Pop…“ผ่อนภาระหนี้กงไหน ฮาา” , สุวิท...“ลดดอกเบี้ยลง แก้ตรงจุดกว่า” , Woody…“แบงค์ฉลาดสุดล่ะ หาที่ปล่อยเงินกู้ที่มั่นคง หนี้ไม่สูญชัวร์ ครูหนี้เพิ่มใหม่ วนไป สุดท้ายอย่ามาเรียกร้องให้รัฐบาลเอาเงินภาษี ไปปลดหนี้ให้ครู ก็พอ”
Rose...“ทำไมไม่แจ้งเขาดอกเบี้ยเท่าไร ตายตัวไปสิ แบบนี้ก็แค่ปรับโครงสร้างลูกหนี้ไม่ให้หนี้สูญแค่นั้น นี่ละนะระบบธนาคาร 5555 ช่วยครูแต่กู้อีกตามอัตราดอกเบี้ยธนาคาร ถ้าอยากช่วยทำไมไม่บอกดอกเบี้ย 2% ตายตัว หารรายปีว่าเท่าไร ยังพอว่าช่วย นี่ยืมมาใช้ดอกเบี้ย ยืมมาใช้หนี้ คิดให้ดีคนที่จะกู้ อย่าตกเป็นเหยื่อ เพิ่มหนี้ให้ครูหรือช่วย ถ้าดอกเบี้ยลอยตัว”
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานอีกว่า ลิงก์ข่าวการเงิน "ออมสิน ปล่อยกู้ 700,000 ลดภาระหนี้ข้าราชการครู ผ่อน 20 ปี" ของเว็บไซต์ https://money.kapook.com/ ได้รายงานรายละเอียดของข่าวนี้ว่า วันที่ 20 มิถุนายน 2565 ธนาคารออมสินออกสินเชื่อหน่วยงานภาครัฐ สำหรับสินเชื่อโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมมอบวงเงินกู้ให้สูงถึง 700,000 บาท โดยมีรายละเอียดเงื่อนไขดังนี้
คุณสมบัติผู้กู้
- ณ วันที่ยื่นกู้ต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป - ณ วันที่ยื่นกู้ต้องเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และเป็นผู้กู้เงินสินเชื่อโครงการ ช.พ.ค.ของธนาคารอยู่ก่อนโครงการนี้ กรณีมีหนี้ค้างชำระต้องชำระหนี้ค้างชำระทั้งหมด หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในคราวเดียวกัน - ต้องไม่ค้างชำระเงินสงเคราะห์รายศพรายเดือน - ต้องระบุชื่อผู้มีสิทธิรับเงิน ช.พ.ค.ให้เรียบร้อยก่อนยื่นคำขอกู้
วัตถุประสงค์การกู้เงิน
- เพื่อชำระหนี้เงินกู้สินเชื่อโครงการ ช.พ.ค.เดิม -เพื่อชำระดอกเบี้ยเงินกู้รายเดือน
ประเภทเงินกู้
- เงินเบิกเกินบัญชี
จำนวนเงินให้กู้
- รายละ 700,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
- เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ระยะเวลาการให้กู้
- ระยะเวลาการใช้วงเงินไม่เกิน 20 ปี
หลักประกันการกู้เงิน
- สิทธิการรับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.
เงื่อนไขการชำระเงินกู้
- ในระหว่างที่สัญญากู้เงินยังไม่ครบกำหนด ธนาคารจะดำเนินการรับชำระดอกเบี้ยเงินกู้รายเดือนจากวงเงินเบิกเกินบัญชี ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถส่งชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นได้ โดยนำเงินฝากเข้าบัญชีกระแสรายวันของตนเองที่เปิดไว้สำหรับโครงการนี้
- กรณีผู้กู้ถึงแก่กรรม สำนักงาน...จะส่งเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.ตามจำนวนเงินที่ผู้กู้มีหนี้ค้างชำระตามจำนวนเงินที่ได้รับแจ้งจากธนาคาร แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในหนังสือยินยอมให้หักสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.
เอกสารประกอบการขอกู้ ดังนี้
ติดต่อขอรับ "แบบคำขอกู้และรับรองสิทธิ โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" ที่สาขา/สำนักงาน/สำนักงาน สกสค.จังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการจัดเตรียมเอกสาร ดังนี้ - หนังสือยินยอมให้หักเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค. - แบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน - บัญชีวางแผนการใช้จ่าย
- หลักฐานประกอบคำขอกู้สำหรับสมาชิก ช.พ.ค. (ผู้กู้) - สำเนาบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้/คู่สมรส - สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้/คู่สมรส - สำเนาใบสำคัญการสมรส/ใบสำคัญการหย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล/ทะเบียนการรับรองบุตร (ถ้ามี) - ใบสำคัญการจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- หลักฐานของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวประกอบคำขอกู้ของสมาชิก ช.พ.ค. (ผู้กู้) - สำเนาบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ - สำเนาทะเบียนบ้าน - สำเนาใบสำคัญการสมรส/ใบสำคัญการหย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี)
ค่าธรรมเนียม
- ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อยกเว้น ค่าธรรมเนียมการชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด
เงื่อนไขอื่น
- เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ. และประธานคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ในขณะนั้น) ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนประจำ ศธ.ว่า ได้มีการหารือร่วมกับนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหารของธนาคารออมสิน
โดย รมว.ศธ.ได้เปิดเผยหลังการหารือว่า ธนาคารออมสินได้ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางศึกษาอย่างเต็มที่ โดยได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับครูฯมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีอัตราเงินกู้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.4 เท่านั้น
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังได้สนับสนุนเงินกู้พิเศษดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู โดยเฉพาะสหกรณ์ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และสหกรณ์ที่ทำการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ “สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย” โดยให้กู้ในวงเงินถึง 2 เท่าของยอดเงินที่มีการปรับโครงสร้าง คิดอัตราดอกเบี้ยสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแบบขั้นบันไดต่ำสุดร้อยละ 2.2 ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท
“รวมทั้งธนาคารออมสินยังได้ชะลอการดำเนินคดีกับครูฯลูกหนี้จำนวนกว่า 25,000 คน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ รวมถึงการปรับลดค่าธรรมเนียมประกันเงินกู้และการค้ำประกันเงินกู้ของบุคคลที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนเกณฑ์การพิจารณาจำนวนผู้ค้ำประกันเงินกู้จากวงเงินกู้เป็นเงินต้นคงเหลือ รวมถึงมาตรการผ่อนปรนอื่นๆ ทั้งที่เป็นลูกหนี้ชั้นดีและลูกหนี้ NPL เช่น การพักชำระเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยบางส่วน” รมว.ตรีนุช กล่าว
ขณะที่ นายสุทธิชัย จรูญเนตร กล่าวเสริมว่า ธนาคารออมสินได้มีข้อตกลงร่วมกับชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งประเทศไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย จำกัด สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้กับสหกรณ์ฯ เพื่อนำไปปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิกครูฯที่เข้าร่วมโครงการ “สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย” โดยให้วงเงินกู้ 3,000 ล้านบาท สัญญาละไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี โดยมีเงื่อนไขว่าสหกรณ์ฯต้องนำเงินกู้ไปให้สมาชิกกู้ไม่เกินร้อยละ 4 ต่อปี มีระยะเวลาชำระหนี้ 10 ปี
“อีกทั้ง ธนาคารออมสินยังจะสนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินอีก 30,000 ล้านบาท ด้วย สัญญาละไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ระยะเวลาการชำระหนี้ 10 ปี”
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
