สานพลังถอดบทเรียน “ออกพรรษาลาเหล้า” เชิดชูบุคคลที่กล้าหาญ ตั้งใจตัดเหล้า-เบียร์ ออกจากชีวิต

สสส. สานพลัง เครือข่ายงดเหล้า ถอดบทเรียน “ออกพรรษาลาเหล้า” พบผู้เข้าร่วม 466 ชุมชน ประหยัดค่าเหล้ากว่า 119 ล้านบาท


นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภาคีเครือข่ายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
 กล่าวว่า การดำเนินงานงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2565 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสถานศึกษา และกลุ่มชุมชน ใช้แนวคิด ซูเปอร์แม่พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์” เมื่อครบ 3 เดือน จึงจัดเวทีถอดบทเรียนออกพรรษาลาเหล้า โดยร่วมมือกับกรมการปกครอง  นายอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และองค์กรต่างๆ  จากการเก็บข้อมูลในชุมชนคนสู้เหล้า มีชุมชนเข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา 466 ชุมชน ผู้เข้าร่วมงดเหล้าครบพรรษา ทั้งหมด 98,141 คน ประหยัดค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 119,156,113 บาท

 

 

โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ทำงานร่วมกับประชาคมงดเหล้าจังหวัดต่างๆ และชมรมคนหัวใจเพชร ทำหน้าที่ชวน ช่วย ชม เชียร์ และเชิดชูบุคคลที่ตั้งใจปฏิญาณตนบวชใจ เพื่องดเหล้าเข้าพรรษา และพบว่าครอบครัวเป็นอีกแรงจูงใจ ที่ให้กำลังใจในการเลิกเหล้าได้  จึงจัด “เวทีถอดบทเรียน เส้นทางความสำเร็จจากคนบวชใจ สู่ออกพรรษาลาเหล้า” ขึ้นมา เพื่อชื่นชม และเชิดชูบุคคลที่กล้าหาญ ตั้งใจตัดเหล้า-เบียร์ ออกจากชีวิต เพื่อก้าวสู่การเป็นซูเปอร์แม่พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์” นายธีระ กล่าว

 

 

นายสายชล แดงพยนต์ ชาวชุมชนบ้านสหกรณ์ จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า เมื่อเลิกเหล้าได้ ทำให้รู้ว่า ชีวิตมีคุณค่ากับตัวเองและลูกมากแค่ไหน เมื่อก่อนทำงานรับจ้างทั่วไป ดื่มเหล้าหนักมาก จนต้องตกงาน ไม่มีรายได้ ครอบครัวแตกแยก จากนั้นลูกสาวขอให้เลิกเหล้า จึงตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษา ตั้งแต่ ปี 2564 แต่เลิกไม่ครบพรรษา เนื่องจากภรรยาที่เลิกกันไป มารับลูกสาวไปอยู่ด้วย เพราะห่วงว่าลูกจะไม่ปลอดภัย รู้สึกเสียใจและขาดกำลังใจ จึงล้มเลิกกลางคัน เหมือนคนหมดไฟ  เพราะอยู่คนเดียว ทำงานเหนื่อย ไม่รู้จะทำไปเพื่อใคร จึงกลับไปดื่มเหล้าเหมือนเดิม แต่เมื่อเข้าพรรษาปี 2565 ที่ผ่านมา ลูกขอให้แม่พากลับมาอยู่กับพ่อ และขอให้ตั้งใจเลิกเหล้าอีกครั้ง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้งดเหล้าครบพรรษา


ผมตั้งใจทำหน้าที่พ่ออย่างเต็มที่ ทำงาน หาเงิน ส่งลูกเรียนหนังสือ ให้ลูกมีกินมีใช้ อยากทำให้ลูกมีความสุขตลอดในช่วงชีวิตที่ได้อยู่ด้วยกัน เมื่อเลิกได้ครบพรรษาแล้ว จึงตั้งใจเลิกตลอดไป” 
นายสายชล กล่าว

 

 

นายอภิสิทธิ์  โอภาส สมาชิกเครือข่ายงดเหล้า กทม.  กล่าวว่า ตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษาครั้งแรก ตั้งแต่วันเข้าพรรษาถึงออกพรรษา รู้สึกภูมิใจมาก เพราะปกติถ้าออกจากบ้านเจอเพื่อนๆ ต้องดื่มเบียร์ 1-2 กระป๋อง  ปีนี้งดได้ครบพรรษา 3 เดือน ต่างจากเมื่อก่อนที่บางวันดื่มเบียร์ 3 ขวด หรือเหล้าแดง 1 แบน ต้องจ่ายค่าเหล้าเฉลี่ยวันละ 300 บาท ยิ่งทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ตกเย็นจะตั้งวงทุกวัน แรกๆ ก็คิดว่าผ่อนคลายให้หายเหนื่อย แต่บางวันกินจนเมาหัวราน้ำ ไม่กลับบ้านไปดูแลลูก ทำให้ภรรยาดูเป็นหลัก มีปัญหาภายในครอบครัว แต่เข้าพรรษาที่ผ่านมา ตัดสินใจงดเหล้าให้ได้ จึงหาเครื่องดื่มสมุนไพร เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำมะตูม มาดื่มทดแทน ในที่สุดก็สามารถงดเหล้าได้ครบ 3 เดือน ทำให้ชีวิตครอบครัวดีมากขึ้น

 

 

นางพรนิภา แวมามะ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า อ.พาน จ.เชียงราย กล่าวว่า ดื่มเบียร์ตั้งแต่อายุ 42 แต่วันหนึ่งระหว่างนั่งดื่มคนเดียว ขวดและแก้วพลิกตกพื้นโดยไม่มีสาเหตุ เลยคิดว่าเจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงอยากให้เลิก เลยตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษา ตอนแรกรู้สึกลำบากและทรมาน แต่ใช้วิธีกินข้าวเย็นเสร็จ รีบเข้าบ้าน ไม่หากิจกรรมทำ รวมถึงได้กำลังใจจากหลาน จนสามารถเลิกได้ทั้งเหล้า เบียร์ และบุหรี่ ต่างจากเมื่อก่อนที่ดื่มวันละ 2 – 3 ขวด และสูบบุหรี่อีก 1 ซอง/วัน  พอเลิกอบายมุขเหล่านี้ ประหยัดเงินได้ 176 – 200 บาท / วัน ทำให้ตลอด 3 เดือน มีเงินใช้เพิ่ม 15,840 – 20,000 บาท