ตรีนุช’ปลื้ม รัฐสภาไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ’ ยันกฎหมายลูก 13 ฉบับ เสร็จตามกรอบเวลา

ตรีนุชปลื้ม รัฐสภาไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ ยันกฎหมายลูก 13 ฉบับ เสร็จตามกรอบเวลา

30 พ.ย.2565 – นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ผ่านมา ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ….ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอแล้ว

กฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายปฏิรูปการศึกษาที่สำคัญต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดย ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ….มีทั้งหมด 31 มาตรา อาทิ ให้ยกเลิก พ.ร.บ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 โดยใน มาตรา 24 ของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

ให้เปลี่ยนสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ เป็น กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และเป็นกรมในกระทรวงศึกษาธิการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ยังกำหนดให้ทำหน้าที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ มีอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีหน่วยจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย หน่วยส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล ศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่ ศูนย์หรือสถาบันการเรียนรู้เฉพาะด้านหรือเฉพาะกิจการ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่ทำหน้าที่จัดการเรียนรู้ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีภาคีเครือข่าย มีสถานศึกษา และมีสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ เป็นต้น

ประโยชน์ที่จะได้รับจากกฎหมายฉบับนี้ คือ ทำให้ผู้เรียนทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชนในการจัดการศึกษาทุกระดับ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาสให้ผู้ซึ่งอยู่ในวัยเรียน แต่ไม่ได้รับการศึกษาในโรงเรียน ผู้พ้นวัยศึกษาในโรงเรียน หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่างทั่วถึง มีการยกระดับคุณภาพการศึกษา เกิดการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน สื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษา และการวัดผลประเมินผลของการเรียนรู้ในทุกรูปแบบ

กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมเข้ามาจัดการเรียนรู้จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพ ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ตลอดจนส่งเสริมให้การใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดกลไกในการขับเคลื่อนการเรียนรู้ของประเทศ

โดยมีกรมส่งเสริมการเรียนรู้และหน่วยงานในสังกัดตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน และเอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ของประชาชนในทุกระดับ เกิดระบบการเทียบโอนเทียบเคียงผลการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพตามความถนัดและความสนใจ หรือ เพิ่มคุณวุฒิให้แก่ผู้เรียนตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงระดับอุดมศึกษา และมีการกระจายอำนาจโดยมีคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร

ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้เตรียมจัดทำกฎหมายลำดับรอง อาทิ การปรับปรุงโครงสร้าง ระเบียบกรมส่งเสริมการเรียนรู้ การจัดอัตรากำลังในการดำเนินงาน รวมจำนวน 13 ฉบับ ประกอบด้วย กฎกระทรวง 4 ฉบับ ประกาศกระทรวง 4 ฉบับ ประกาศกรม 1 ฉบับ และ ระเบียบกรม 4 ฉบับ เพื่อรองรับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ…. ทุกอย่างจะแล้วเสร็จทันตามกรอบเวลา ที่กฎหมายกำหนดไว้  นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าว  

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage