ตุลย์ ณ ราชดำเนิน : รายงานพิเศษ 

แฮชแท็ก “#Saveเตรียมพัฒน์” มาแรง กางข้อบังคับ ตอกหน้า "ไอซ์ รัชนก" ก้าวไกล หนุนเด็กปีนรั้ว แหกกฎ จ่อร้อง กตต."ตรวจสอบคุณสมบัติ 

จากกระแสเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ที่พยายามทำตัวเองให้เป็นข่าว ด้วยการปีนรั้วเข้าไปในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยอ้างว่าพยายามจะเข้าไปเรียนหนังสือ โดยเรื่องดังกล่าว

กระทั่ง มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ความคิด ของว่าที่ ส.ส.กทม. รายหนึ่ง คือ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ "ไอซ์" พรรคก้าวไกล ว่าที่ ส.ส.กทม. เขตบางบอน หนองแขม จอมทอง ออกมาเกาะกระแสเด็กหญิงคนดังกล่าว โดยแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กของตนเองโดยออกมาถามทำนองว่า มีระเบียบกฎหมายข้อไหนที่พ่อ แม่ ต้องพามอบตัวเท่านั้น แล้วคนที่เป็นเด็กกำพร้าจะทำยังไง?

และถึงขั้นที่ว่า จะร้องเรื่องนี้ให้กรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตอบคำถามสังคม 

อย่างไรก็ตาม มีคนได้แนะนำให้ รัชนก ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล ดูในรายละเอียดที่เป็นข้อบังคับที่เจ้าตัวสงสัยนั้น ในพรบ. การศึกษาแห่งชาติ มาตรา ๑๑ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า

"บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือ บุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับตามมาตรา ๑๗ และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องตลอดจนให้ได้รับการศึกษานอกเหนือ จากการศึกษาภาคบังคับ ตามความพร้อมของครอบครัว"

ขณะที่ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ.๒๕๔๖ ได้ให้ความหมายถึง “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจ ปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน

นอกจากนี้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๒๑ ยังระบุว่าผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใด ๆ ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน การใด ๆ ที่ผู้เยาว์ได้ทำลงปราศจากความยินยอมเช่นว่านั้นเป็นโมฆียะ เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

ผู้แทนโดยชอบธรรม ตัวบุคคลซึ่งกฎหมายให้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม เพื่อทำหน้าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ในการทำนิติกรรมนั้น กล่าวโดยสรุปก็ คือ ผู้ใช้อำนาจปกครอง (มาตรา ๑๕๖๙) อันได้แก่บิดา มารดาของผู้เยาว์นั้นเอง (มาตรา ๑๕๖๖) หรือผู้ปกครอง (มาตรา ๑๕๙๘/๓) อันได้แก่บุคคลที่ศาลสั่ง

ตามมาด้วย บรรดาสังคมโซเชียลฯ ที่รับทราบความจริง ออกมา ให้กำลังโรงเรียนเตรียมพัฒน์ฯ จำนวนมาก ทำให้แฮชแท็ก “#Saveเตรียมพัฒน์” มาแรงแซงหน้า #Saveหยก !! ไปแล้วอย่างถล่มทลาย ซึ่งน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับนักการเมืองบ้านเราที่มีพฤติกรรม สนับสนุนให้คนในสังคมทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ซึ่งกระแสสังคมส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยที่อ้างเรียกร้องสิทธิตัวโดยไม่เคารพสิทธิผู้อื่น แบบนี้จะ “Save หยก” ไปทำไม ?

งานนี้ "คุณปลื้ม" หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดัง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว หนุนโรงเรียนปกป้องกฎระเบียบ อย่าไปกังวลพวกนักการเมืองที่เก็บแต้มด้วยการให้ท้าย "น้องหยก" ทำในสิ่งที่เหมาะสม แล้วสังคมจะตัดสินเอง "ใครผิดใครถูก"

พร้อมสอนหยกตัวตึงนิ่มๆ โดยระบุในด้านสิทธิเสรีภาพ ว่าสิทธิเสรีภาพก็ยังอยู่ใต้กฎหมาย คุณมีสิทธิเสรีภาพภายใต้ที่กฎหมายกำหนด

นี่เรียกว่า สังคมที่มีกฎระเบียบ ในกรณีนี้สถาบันการศึกษาก็มีกฎของสถาบัน อยู่ในโรงเรียนก็ต้องมีกฎระเบียบของสถานการศึกษานั้นๆ

เราจะสอนให้เด็กรุ่นต่อไปไม่เคารพกฎไปเรื่อย ๆ หรือ ?

อย่างนี้ ถ้าอนาคตมีคนไม่พอใจ จะเปลี่ยนกฎอะไร ก็ให้ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎนั้นเลยง่าย ๆ ทั้งที่โดยส่วนรวม ผู้อื่นก็ยังยินดีปฏิบัติตามกฎนั้นอยู่ ?

มันเเฟร์ต่อผู้อื่น ซึ่งร่วมศึกษาในสถาบันนั้นๆ ไหม ?

“คุณปลื้ม” ยังเห็นว่า คนส่วนใหญ่มีเหตุผลและเคารพกติกา โรงเรียนไม่ต้องกังวลกับนักการเมือง หรือสื่อ หรือพิธีกร หรือเอ็นจีโอ ที่เก็บแต้มเข้าตนเองด้วยการให้ท้ายเด็กหรอก ทำในสิ่งที่เหมาะสม แล้วสังคมจะเห็นเอง ว่าใครผิด ใครถูก

การเรียนเป็นโอกาสที่พิเศษ เป็น Privilege (สิทธิพิเศษ) ของเด็กที่ได้เรียนในโรงเรียนเอกชนที่มีคุณภาพ ที่มีชื่อเสียง นักเรียนผู้นั้นควรตระหนักถึงสิทธิพิเศษตรงนี้ การทำสีผม หรือเเต่งตัวอะไรยังไงก็ได้ไม่ใช่สิทธิ ไม่เคยเป็นสิทธิ มันแค่เป็นสิ่งที่คุณอยากทำตามอำเภอใจเท่านั้น รณรงค์ให้เด็กปฏิบัติตามกฎระเบียบสถานการศึกษาจะดีกว่า ไม่ใช่วันๆ เอาแต่ให้ท้ายนักเรียน เพื่อให้ตนเองดูเหมือนเป็นคนที่เชียร์เรื่องสิทธิ เสรีภาพ

โรงเรียนจำนวนมากในโลก ถ้าเป็นเอกชน ต้องจ่ายเงิน ก็มียูนิฟอร์ม และให้ความสำคัญต่อการปลูกฝังค่านิยมการเคารพกติกาตั้งแต่เล็ก ๆ เลย เน้นความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นมาก ไม่ใช่เอาเเต่ให้ท่องเรื่องสิทธิของตนเองตามที่ตอนนี้มีการเชื่อกัน

เรียนโรงเรียนมัธยมประจำในยุโรป / สหรัฐฯ เขามีกฎ

แม้แต่เรื่องกรอบเวลาในการใช้อุปกรณ์สื่อสารหรือเรื่องอื่น ๆ

โซนเอเชียก็เช่นกัน การปฏิบัติตามกฎที่ไม่ได้เป็นภัยต่อสวัสดิภาพของนักเรียน คือ การฝึกการควบคุมตนเอง เป็นทักษะชีวิตที่สำคัญมาก

อีกครั้ง ถ้ารักรุ่นต่อไปจริง ๆ ไม่ใช่รักเพื่อให้ตนเองดูเหมือนว่าเป็นฮีโร่ของฝ่ายประชาธิปไตย ก็ควรที่จะสอนให้เขาปฏิบัติตามกฎ

ส่วนใครอยากให้ท้ายเด็กไปเรื่อย ๆ ก็เชิญ ... แล้ววันหนึ่งก็จะเข้าใจเองว่า ผลต่อตัวเด็กผู้นั้น เเละผลต่อสังคมจะเป็นเช่นไร

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่กลุ่มSaveหยก ต้องตั้งสติ คิดกันหน่อย เอาดีๆ ที่เชียร์ ๆ กันตกลงว่าเรียกร้องสิทธิ หรือเรียกร้องความสนใจ ?

แม้แต่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด" โพสต์ล่าสุดถึง หยก ในฐานะที่เป็นคนแก่ มองเห็นโลกมานาน ออกมาโพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล  ฝากข้อความถึง หยก หลังตกเป็นประเด็นร้อนโดยระบุว่า

ผมไม่เข้าใจ "หยก" หรอกนะ เพราะ เมื่อ 30 ปีก่อน ตอนผมอายุน่าจะเท่า "หยก" โลกของผมไม่ได้เป็นเหมือนโลกของหยก แน่ ๆ

ผมมัวแต่ทำงานหาเงิน เลี้ยงชีวิต แต่ผมก็คงไม่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน เพราะยุคสมัยมันอาจเปลี่ยนไปแล้ว และ เราคงอยู่ได้ไม่นาน คงต้องให้ลูก ๆ หลาน ๆ เป็นผู้กำหนดอนาคตของเขาเอง

แต่ในฐานะที่เป็นคนแก่ มองเห็นโลกมานาน กลัวว่า..กว่าจะถึงวันที่เด็กเข้าใจชีวิต เด็กๆจะตกเป็นเครื่องมือของพวกผู้ใหญ่

โลกที่สดใสของวันเยาว์ที่หายไป แล้ว..ผู้ใหญ่จะชดเชยให้เขาได้อย่างไร

แม้กระทั่ง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ ยังออกมา ชี้ "หยก" เยาวชนสาวอายุ 15 ปี ที่มีพฤติกรรมต่อต้านระบบระเบียบวินัยของโรงเรียน

เป็นเหยื่อพรรคการเมืองสร้างลัทธิคลั่งเสรีภาพสุดโต่ง ป้อนข้อมูลและทัศนคติทางการเมืองแบบต่อต้านผ่านกลไกการสื่อสาร ทั้งทางสื่อโซเชียล การทำกิจกรรมกลุ่ม และการรวมกลุ่มเพื่อนที่มีทัศนคติโน้มเอียงแบบต่อต้านสังคม

นับเป็นกระบวนการทำลายคุณค่าและอัตลักษณ์แบบประนีประนอมของเยาวชนไทยในระยะยาว จึงอดห่วงไม่ได้ว่าในอนาคต เราจะมีเหยื่อแบบหยกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม ขอนำส่วนหนึ่งจากความเห็นในสังคมโชเชี่ยนับจำนวนมากมาย ที่คัดมาให้เห็นว่าเกินกว่าร้อยละ 99 หนุนโรงเรียนปกป้องกฎระเบียบ ชี้ทางเดินที่ถูกต้อง โดยไม่กังวลพวกนักการเมืองที่เก็บแต้มด้วยการให้ท้ายเด็กทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมนั้นจะคิดอย่างไร      

Warzone น้ำตาจะไหลเราได้ใครมาเป็น ส.ส.  user-nd2mc ชักจะเกิน limit ก้าวร้าว คงนึกว่า ปชช ที่รักประชาธิปไตยในกลุ่มก้าวไกล เป็นพวกตัวเอง ไม่ใช่นะครับ คนละประเด็นครับน้อง HaLa-gj นักข่าวไทยบางค่ายก็แแปลก ขอแค่เป็นข่าว เห็นผิด คือ ความสะใจ ระวังวันหนึ่งเค้าจะมาใช้ในบ้านคุณ tianchaiya หยกกำลังหลงทาง เพราะอาจมีคนให้ท้าย จนทำตัวก้าวร้าวจนไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่น ยิ่งอยู่ในสังคม ยิ่งต้องเคารพ rangsann การได้เรียนในโรงเรียนดีๆ มันไม่ใช่สิทธ์ แต่มันคือโอกาส" ลองมองไปที่นักเรียนต่างจังหวัด คนที่ด้อยโอกาสเค้าไม่มีทั้งสิทธ์ ไม่มีทั้งโอกาส แค่นี้คิดให้ได้ พวกนักการเมือง ควรจะมีจรรยาบรรณบ้างนะ ไม่ใช่ปั่นอย่างเดียว

Kabukirock เคสนี้ผิดเต็ม ๆ ครับ แค่กฎขั้นพื้นฐานของโรงเรียนยังยอมรับไม่ได้แล้วต่อไปจะรับกฎเกณฑ์ของบริษัท กฎเกณฑ์ของสังคมได้เหรอครับ เพราะไม่อย่างนั้นทุกครั้งที่คุณไม่พอใจก็จะมาอ้างสิทธิ์นู่นนี้ สุดท้าย โตไปก็จะเหมือนกับพวกผู้ใหญ่ที่คุณด่านั่นแหละ ที่เอาแต่ใจตัวเองไม่สนใจคนอื่น ถ้าสังคมมันไม่มีกรอบความคิดที่ถูกต้อง อีกหน่อยคนก็ทำผิดจะอ้างแล้วอ้างว่า ใช้สิทธิ์ของตัวเอง สุดท้ายสังคมก็จะวุ่นวายไปหมด 

Kraimon ขอเสริมนิดนึงครับ "ผู้ใหญ่คนไหนที่ให้ท้ายคุณ เขาไม่ได้รักคุณ" ครับ เขาแค่ใช้คุณเป็นทางในการเรียกแสงให้เขา ผู้ใหญ่คนนั้นเค้าจะเด่นดังต่อไป ในขณะที่ผลเสียที่ถูกปลูกฝังในความเข้าใจผิดของคุณ เค้าจะไม่มาร่วมรับผิดชอบอะไรเลยในอนาคต เพราะเค้าได้สิ่งที่เค้าต้องการจากคุณไปแล้ว คนที่ต้องรับผลเหล่านั้นก็คือคุณ คุณคนเดียวเท่านั้น"

pkcharne การเรียกร้องสิทธิมากเกินไป ไม่ต่างอะไรกับคนเอาแต่ใจตัวเอง ประชาธิปไตยที่มากเกินไป ก็ไม่ต่างอะไรกับเผด็จการ โลกไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล แต่เราต้องอยู่ และการอยู่ร่วมกันมันมีกติกา คนที่ไม่เคารพกติกา มันไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย มัน คือ เผด็จการ และเป็นการเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ใช่การเรียกร้องสิทธิ์ จะเป็นการวางตัวเองอยู่เหนือผู้อื่น อยู่เหนือข้อตกลงทางสังคม นั่นคือ ไม่ให้เกียรติผู้อื่น ไม่เคารพผู้อื่น ไม่ยอมรับความเห็นต่าง แต่ปากบอกประชาธิปไตย ปากบอกเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเอง นั่นแหละครับ เผด็จการ ของคนเอาแต่ใจตัวเอง และวางตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล

OngChay เคสนี้หยกผิดเต็ม ๆ ครับ โรงเรียนเขาไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ์ พราะเขาไม่ได้ไปบังคับให้มาเรียน แต่หยกเป็นคนสมัครไปเรียนที่โรงเรียนเขา ก็ต้องยอมรับกฎที่เขามีให้ได้ ส่วนกฎข้อไหนที่คิดว่าไม่โอเค สิทธิ์ของหยกคือ แสดงความเห็นได้ว่าข้อไหนไม่โอเคอย่างไรเพราะอะไร แต่หยกไม่มีสิทธิ์ไปแหกกฎเขาเลยนะครับ

Titatane หากนักการเมืองในพรรคการเมืองใดยังใช้วิธีการสนับสนุนส่งเสริมพฤติกรรมผิด ๆ ให้เป็นเรื่องที่ถูกต้องไปเรื่อย ๆ พรรคนั้นคอยนับถอยหลังเข้าสู่ความเสื่อมได้เลย

ล่าสุด งานเข้า “ไอซ์ รักชนก” ชาวเน็ตขุดคลิป ปมเผาศาลากลาง หมิ่น 112 วัคซีนพ่อ  ถามนี่หรือว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ช่วยออกมาชี้แจง ฝาก กกต.ตรวจสอบ

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  กล่าวถึง กรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก ว่าที่ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล  ที่โพสต์แสดงความคิดเห็นกรณี “น้องหยก"

คนที่จะเป็น ส.ส. แต่มีตรรกะแบบนี้ ไม่ควรเข้าสภา เพราะไม่เคยคิดเอากฎของสังคม กฎกติกาบ้านเมือง มาเป็นที่ตั้งเอาแต่กฎตัวเองกฎหมู่ มาเป็นพื้นฐาน

ผมว่าคุณไอซ์ รักชนก เลอะเทอะพูดแบบไม่มีความรู้ ไม่รู้จะยุยงปลุกปั่น เพื่ออะไร อย่าเอาน้องหยกเป็นเหยื่อการเมือง ทำให้บ้านเมืองแตกแยก ผมขอให้กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติคุณไอซ์ ให้ถี่ถ้วนไม่อยากเห็นการเลือกตั้งซ่อมเสียงบประมาณ ถ้ามีคุณสมบัติต้องห้ามก็ให้เพิกถอน  แล้วให้คุณไอซ์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายไปเลยครับ

ถ้าปล่อยไว้ให้แนวคิดนี้เหมือนมะเร็งร้าย แล้วจะลามไปประเทศเดือดร้อน 

ในที่สุด มีประกาศคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เรื่อง แถลงการณ์กรณี นางสาวธณลภย์ ผลัญชัย สรุปจากข่าวความว่า "หยก" ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการแล้ว และไม่ใช่เพราะโรงเรียนไล่ออกด้วยการทำผิดระเบียบ แต่ผู้ปกครอง (มารดา) ไม่ได้มาทำเรื่องมอบตัวเพื่อศึกษาต่อ จากระดับชั้น ม.3 ไประดับชั้น ม.4 ตามที่กำหนด วันที่ 10 มิ.ย. 2566 (ซึ่งทางโรงเรียนผ่อนผัน เลื่อนมาให้แล้ว)

และเนื่องจากไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566 

และ สภาผู้ปกครองฯ ออกแถลง เห็นใจผู้บริหาร-ครู ‘เตรียมพัฒน์’เนื่องจาก "หยก" สร้างความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน  

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage