สิรภพ เพ็ชรเกตุ
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 นายสิรภพ เพ็ชรเกตุ ประธานชมรมครูภาคกลาง และกรรมการสมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคคท.) เปิดเผยว่า สคคท.ได้จัดประชุมของคณะกรรมการ สคคท.ผ่านทาง zoom online
มีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ ดร.ดิเรก พรสีมา ประธาน สคคท., ดร.นิวัตร นาคะเวช รองประธาน สคคท., ดร.ปรีชา จิตสิงห์ กรรมการ สคคท., นายกมลเทพ จันทรจิต กรรมการ สคคท. นายประชัน จันระวังยศ กรรมการ สคคท., ตน และ ดร.วิสิทธิ์ ใจเถิง กรรมการและเลขานุการ สคคท.
โดยการประชุมในวันนี้ได้หารือกันภายใต้หัวข้อ "ปฏิวัติการศึกษาไทย ด้วยครูไทย เพื่อเยาวชนไทยในอนาคต" ซึ่งมีผลสรุป อาทิ 1.เรื่องความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ จากการติดตามทราบว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)
คาดว่าต้นเดือนกันยายน 2564 นี้ น่าจะเข้าพิจารณาในสภานิติบัญญัติ เสนอเป็นกฎหมายปฏิรูปพิจารณาร่วมกันทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อรับหลักการในวาระที่ 1 ก่อน หลังจากนั้นจะตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณา แก้ไข ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงในระหว่างปิดสมัยประชุม ซึ่งที่ประชุม สคคท.วันนี้เห็นว่า การทำงานในช่วงนี้พวกเราควรนำเสนอข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่ง สคคท.มีข้อมูลพร้อมที่จะนำเสนอแล้ว
2.ที่ประชุม สคคท.ได้พิจารณากฏหมายฉบับรองของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งยังต้องรอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้ผ่านสภาก่อนถึงจะพิจารณาได้ ทั้งนี้ สิ่งที่กังวลคือ การแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่เห็นฉบับร่างฯของ ศธ.เลย ที่ประชุมจึงเสนอให้จัดทำฉบับร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ที่สอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เพื่อเสนอสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ในที่ประชุม สคคท.ได้หยิบยกเรื่องโครงสร้าง ศธ. ตามมาตรา 106 ของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาอภิปรายกันในเรื่องโครงสร้างหลักภายในกระทรวงศึกษาธิการ และโครงสร้างในส่วนภูมิภาค รวมไปถึงการแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 เกี่ยวกับการบริหารบุคคลในส่วนภูมิภาคของ ศธ.
"ซึ่งพวกเรามองว่า จะต้องสอดคล้องกันกับกฎหมายแม่บท พร้อมทั้งมีการกระจายอำนาจไปสู่สถานศึกษาอย่างแท้จริง รวมไปถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งพวกเราสรุปว่านี่คือ อ.ก.ค.ศ.สถานศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อควบคุมกำกับการบริหารสถานศึกษาอย่างแท้จริงต่อไป"
นายสิรภพกล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ สคคท.ได้พิจารณาการปฏิวัติการศึกษาไทย ด้วยครูไทย เพื่อเยาวชนไทยในอนาคต โดย สคคท.จะเป็นแกนนำในการรวบรวมองค์กรครูเพื่อเป็นแนวร่วมในการช่วยกันปฏิวัติการศึกษาไทยให้เข้มแข็งมีคุณภาพ ในนามภาคประชาชน โดยไม่มีผลประโยชน์ แต่ยึดประโยชน์ของนักเรียนและของประเทศชาติ
ทั้งนี้ สมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคคท.) ได้ดำเนินการจดทะเบียนสมาคม เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพขององค์กรครูที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด ได้หันมาร่วมสร้างคุณภาพการศึกษาของชาติไปพร้อมๆ กับกระทรวงศึกษาธิการ
"ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาอย่างแท้จริงให้กับองค์กรครูระดับจังหวัด ได้นำไปพัฒนาร่วมกับหน่วยงานที่สังกัดและองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ทั้งนี้ ให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นอิสระในการบริหารจัดการและเข้าสู่การเป็นนิติบุคคลในอนาคตต่อไป" นายสิรภพ กล่าว
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
