เนเธอร์แลนด์ ห้ามมือถือ แท็บเล็ต นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เข้าห้องเรียน ปี 2024

Photo : VOA 

เนเธอร์แลนด์ ห้ามมือถือ แท็บเล็ต

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เข้าห้องเรียน ปี 2024

 

วีโอเอ องค์กรข่าวระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการเนเธอร์แลนด์ ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 นักเรียนจะไม่สามารถนำโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และนาฬิกาสมาร์ทวอทช์เข้าสู่ห้องเรียน ด้วยเหตผลระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนมีใจจดจ่ออยู่ที่การเรียน โดย ไม่ถูกหันเหจากสิ่งอื่น

 

อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ดังกล่าวหากมีความจำเป็น ยังคงได้รับอนุญาตให้มีการนำเข้าชั้นเรียน เช่น ในชั่วโมงที่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัล หรือเพื่อเหตุผลทางการแพทย์ หรือในกรณีที่เป็นนักเรียนที่มีความพิการ

 

ขณะเดียวกันมีเสียงวิจารณ์ว่า เป็นเรื่องที่ยากในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะโทรศัพท์มือถือกลายเป็นสื่อออนไลน์ ที่เด็กอาจต้องใช้ค้นคว้าหาความรู้ รวมทั้งติดต่อสื่อสาร จึงกลายเป็นเหรียญสองด้านที่ทั้งผู้ปกครองและครูต้องคอยกำชับตักเตือนการใช้เวลาที่อยู่กับหน้าจอและการเลือกเสพข้อมูลที่เหมาะสม

 

โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารของคนเรา แต่หลายคนยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้น จะสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาได้หรือไม่?

 

เนื่องจากการที่มีโทรศัพท์มือถือจะทำให้นักเรียนถูกรบกวนสมาธิในชั้นเรียน เด็ก ๆ อาจจะใช้โทรศัพท์ส่งข้อความในห้องเรียน บางคนอาจใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปในการโกงข้อสอบ บางคนอาจจะเล่นเกม หรือดูวีดีโอ แทนที่จะตั้งใจเรียน

 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ครูผู้สอน ตลอดจนผู้ปกครองต่างพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมดูแลการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียน

 

ที่รัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างการเรียนการสอน แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับกิจกรรมในห้องเรียนต่าง ๆ รวมถึงในเรื่องของสุขภาพและเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ด้วย

 

ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ผ่านร่างกฎหมายในปีพ.ศ. 2561 ว่าด้วยการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นอายุของนักเรียนระดับมัธยมปลาย

 

ครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า การที่นักเรียนที่ใช้โทรศัพท์ในชั้นเรียนเป็นปัญหาใหญ่ พวกครั้งมักจะคอยเช็คโทรศัพท์ ส่งข้อความ เข้าสื่อสังคมออนไลน์ จนทำให้เธอต้องคอยริบโทรศัพท์จากนักเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า

 

รองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน กล่าวว่า นักเรียนบางคนใช้เวลาบนโทรศัพท์มากถึงวันละ 11 หรือ 12 ชั่วโมง ดังนั้น โรงเรียนจึงต้องหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีอื่นในการควบคุม

 

Adam Gelb รองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน กล่าวว่า นักเรียนบางคนใช้เวลาบนโทรศัพท์มากถึงวันละ 11 หรือ 12 ชั่วโมง ดังนั้น โรงเรียนจึงต้องหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีอื่นในการควบคุม

 

อย่างเช่น โรงเรียนมัธยม San Mateo High School ที่กำหนดให้นักเรียนทุกคนจะต้องนำโทรศัพท์ของตนใส่ไว้ในกระเป๋าเล็ก ๆ ที่ล็อคด้วยแม่เหล็ก โดยกระเป๋านี้มีชื่อว่า Yondr Pouch อเลิกเรียนนักเรียนก็จะปลดล็อคกระเป๋านี้ด้วยอุปกรณ์ปลดล็อค

 

ที่ล็อคด้วยแม่เหล็ก Yondr Pouch ถูกนำมาใช้ตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในสหรัฐฯ และที่ยุโรป โดยมีค่าใช้จ่ายราวปีละ 20,000 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งโรงเรียน หรือ 12 ดอลล่าร์ต่อนักเรียนหนึ่งคน

 

คุณครู Joanne Sablich บอกว่า เธอดีใจที่เห็นนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น แทนที่จะจ้องมองแต่ที่โทรศัพท์ของตัวเอง

 

ขณะที่โรงเรียนอื่น ๆ ในหลายประเทศในยุโรปและหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา อาจเลือกวิธีที่ง่ายกว่า เช่น การห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน หรือบางแห่งห้ามใช้โทรศัพท์ทั้งวันรวมถึงเวลาพักกลางวันด้วย

 

Edunewssiam มองสำหรับเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาไทย ควรจะได้นำไปฉุกคิดพิจารณา เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหากจะมีคำสั่งห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นความรักและปรารถนาดีเพียงใด

 

 

photos from internet 

 

เนื่องจากนักเรียนต่างเติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของครูที่จะสอนให้พวกเขาสามารถใช้โทรศัพท์ให้เป็นเครื่องมือในห้องเรียนได้อย่างเหมาะสม และว่า ทางโรงเรียนยังสอนนักเรียนเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้โทรศัพท์มือถือกับสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนการใช้อินเทอร์เน็ตอีกด้วย

 

เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาสำหรับเด็ก ๆ ตราบใดที่เราสามารถสอนพวกเขาให้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างมีความรับผิดชอบ และอย่ากลัวที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการช่วยนักเรียน

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage