รัฐมนตรี ‘กระทรวงศึกษา -อุดมศึกษาฯ’ควรทำอะไร

 

รัฐมนตรี ‘กระทรวงศึกษา

-อุดมศึกษาฯ’ควรทำอะไร

 

 

บทความที่เขียนโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี

 

กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นระบบปัญญาของชาติ แต่นักการเมืองไม่ค่อยสนใจ อาจกลัวว่ายาก

 

เมื่อคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านพูดกับผมว่า “เรื่องการศึกษานี้ผมอยากทำมาก แต่ไม่รู้จะจับในแง่มุมไหน”

 

“แง่มุม” ที่คุณทักษิณพูดนั้น คือ “จุดคานงัด” ถ้ารู้จุดคานงัดแล้วงัดตรงนั้น จะยกประเทศไทยขึ้นได้ทั้งประเทศ แต่ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใดเข้าใจ “แง่มุม” ที่คุณทักษิณพูด หรือ “จุดคานงัด” ของการศึกษาไทย ก็น่าเห็นใจ

 

คำแนะนำต่อท่านรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวง ก็คือ

 

1. อย่าไปบริหารงานประจำ ซึ่งจะเหนื่อยและไม่ได้ผล ระบบมีข้าราชการประจำทำอยู่แล้ว

2. รัฐมนตรีต้องเป็นผู้นำนโยบาย และนโยบายต้องพุ่งไปที่จุดคานงัดของระบบการศึกษา ซึ่งถ้างัดตรงนี้อย่างเดียว ทั้งหมดจะดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

จุดคานงัดประเทศไทยคืออะไร

 

ประเทศไทยมีทรัพยากรเพื่อการพัฒนามาก ควรเจริญรุ่งเรืองยิ่ง แต่กลับติดอยู่ในวิกฤตการณ์เรื้อรัง เพราะพัฒนาแบบแยกส่วนเป็นเรื่อง ๆ อะไรที่ชำแหละเป็นส่วน ๆ เช่น ชำแหละโค ชำแหละสุกร ก็จะทำให้สิ้นชีวิต ชีวิต คือ การเชื่อมโยง

 

การพัฒนาแบบแยกส่วนทำให้ประเทศเสียสมดุลหมดทุกมิติ อะไรที่ไม่สมดุลก็จะปั่นป่วน วุ่นวาย รุนแรง วิกฤต ไม่ยั่งยืน

 

เพราะฉะนั้น จุดคานงัดประเทศไทย คือ พัฒนาอย่างบูรณาการ ให้ทุกส่วนเชื่อมโยงกัน เมื่อเชื่อมโยงก็จะมีชีวิต ชีวิตเรียนรู้และเติบโตได้

 

การพัฒนาอย่างบูรณาการ ต้องเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง เอาหน่วยงาน หรือประเด็น หรือวิชาการเป็นตัวตั้งไม่ได้ เพราะแยกส่วนเป็นเรื่อง ๆ

 

ประเทศไทยที่มีบูรณภาพอย่างสมบูรณ์

 

1.พัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการ 8 มิติ : เศรษฐกิจ - จิตใจ - สังคม - สิ่งแวดล้อม - วัฒนธรรม - สุขภาพ - การศึกษา – ประชาธิปไตย ทั้ง 8 มิติ เชื่อมโยงอยู่ในกันและกัน แบบที่เรียกว่า มรรคสมังคี

 

2.ระบบต่าง ๆ อีก 8 ระบบ บูรณาการกับพื้นที่ และระหว่างกัน ตามรูป

 

 

ประเทศไทยที่มีบูรณภาพและดุลยภาพ 

ฉะนั้น ระบบอะไร ๆ ก็ต้องเป็นระบบที่บูรณาการ ไม่ใช่แยกส่วน

 

ระบบการศึกษาบูรณาการเป็นไฉน

ปัญหาใหญ่ของการศึกษา คือ เป็นระบบการศึกษาที่แยกส่วน โดยเอาวิชาเป็นตัวตั้ง วิชาความรู้มีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ตัวตั้ง แต่เป็นตัวประกอบอย่างหนึ่งของการเรียนรู้

 

การศึกษาต้องบูรณาการกับชีวิต ตามหลักทางพุทธศาสนา

ชีวิตคือการศึกษา การศึกษาคือชีวิต

ชีวิตจะเกี่ยวข้องกับอะไร ก็ต้องเรียนรู้ในสิ่งนั้น ๆ

ชีวิตต้องเรียนรู้ให้ ทำเป็น คิดเป็น ตัดสินใจเป็น จัดการเป็น อยู่ร่วมกันเป็น พัฒนาจิตใจเป็น

ถ้าการศึกษาทำให้ทุกคนมี “6 เป็น” ดังกล่าว ชีวิตก็จะเจริญ สังคมก็จะเจริญ

จุดคานงัดจึงอยู่ที่ เรียนรู้จากการทำ ที่ทำให้ทำเป็น คิดเป็น ตัดสินใจเป็น จัดการเป็น อยู่ร่วมกันเป็น พัฒนาจิตใจเป็น

ไม่ใช่การศึกษาแบบ “ท่องเป็น” แต่ทำอะไรไม่เป็น เป็นเหตุให้ชาติอ่อนแอและวิกฤต

 

นโยบายจุดคานงัดของกระทรวงศึกษาธิการ

ให้ทุกสถาบันการศึกษามี หลักสูตรเรียนรู้จากการทำงาน (Work-Base Learning) หรือ WBL ถ้ามีการเรียนรู้จากการทำงาน มีรายได้ไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย จะหายจนทั้งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คือ หายจนทั้งประเทศ และ คนไทยมีสมรรถนะสูงเพราะ “ทำเป็น”

 

อุดมศึกษาควรเป็นหัวรถจักรทางปัญญาพาชาติออกจากวิกฤต

ประเทศไทย มีมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน ประมาณ 140 แห่ง มีนิสิตนักศึกษา ประมาณ 2 ล้านคน มีครูบาอาจารย์นักวิชาการหลายแสนคน เป็นขุมศักยภาพทางปัญญามหาศาล แต่ การที่ไม่สามารถเป็นหัวรถจากทางปัญญาพาชาติออกจากวิกฤติได้ เพราะ “คิดเชิงเทคนิคเท่านั้น” ขาดสมรรถนะการคิดเชิงระบบ และ การจัดการ รวมทั้งสมรรถนะเชิงพัฒนานโยบาย

 

จุดคานงัดของอุดมศึกษาไทย มี 2 จุด คือ

 

1. นโยบายการทำงานเชิงพื้นที่ 1 มหาวิทยาลัย / 1 จังหวัด ถ้ามหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการ จะทำให้คนไทยเข้าใจความจริงของแผ่นดินไทย การศึกษาที่ทำให้คนไทยไม่เข้าใจความจริงของแผ่นดินไทย เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ทำให้ชาติวิกฤต เพราะเมื่อไม่รู้ความจริง ก็ทำให้ถูกต้องไม่ได้

อุดมศึกษาบูรณาการกับการพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการ จะทำให้ประเทศไทยมีบูรณภาพและดุลยภาพ เป็นแผ่นดินศานติสุข

2. นโยบายมหาวิทยาลัยกับการพัฒนานโยบาย นโยบายเป็นปัญญาสูงสุดของชาติ เพราะกระทบทุกองคาพยพของประเทศ ประเทศไทยเกือบไม่มีความสำเร็จทางนโยบาย เป็นเหตุให้ติดอยู่ในหลุมดำแห่งวิกฤตการณ์ ทั้งนี้เพราะขาดความเข้าใจระบบนโยบาย นโยบายเป็นระบบไม่ใช่เรื่องทางเทคนิคเท่านั้น ถ้าทำไม่เป็นระบบครบวงจร ก็ไม่สำเร็จ

 

แต่ถ้าทำเป็นระบบครบวงจร 12 ขั้นตอน ก็จะสำเร็จทุกเรื่อง เรียกว่า “สัมฤทธิศาสตร์”

 

ถ้ามหาวิทยาลัยสร้างความเชี่ยวชาญในสัมฤทธิศาสตร์ ก็จะช่วยให้ประเทศไทยมีความสำเร็จทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องชุมชนจนถึงนโยบาย นี่แหละที่เรียกว่า อุดมศึกษา คือ หัวรถจักรทางปัญญาพาชาติ ออกจากวิกฤต

 

การสร้างนักพัฒนานโยบายในมหาวิทยาลัย ก็เป็นเรื่องไม่ยาก และอธิบายไว้แล้วในเรื่อง “มหาวิทยาลัยกับเป้าหมายสูงสุดในการพัฒนาประเทศ การคิดเชิงระบบและการจัดการ”

 

ถ้าท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงอว. ทำตรงนโยบายจุดคานงัด 3 จุดที่กล่าวถึง ทุกสิ่งทุกอย่างก็สัมพันธ์กันเป็นลูกโซ่ บูรณาการกันสู่องค์รวมประเทศไทย

 

ประเทศไทยที่เป็นองค์รวมจะมีคุณสมบัติอันมหัศจรรย์

 

ทำนองเดียวกับที่เครื่องบิน เมื่อประกอบชิ้นส่วนครบเป็นองค์รวม ก็มีคุณสมบัติใหม่ คือ บินได้ ในขณะที่ไม่มีชิ้นส่วนใดบินได้เลย

 

ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน พัฒนาแบบแยกส่วนประเทศไทยบินไม่ได้ ต้องพัฒนาอย่างบูรณาการสู่องค์รวม

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ 

https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage