'เพิ่มพูน' ลั่น! ผู้บริหาร ศธ.

ต้องแจงทรัพย์สิน' สกัดทุจริต

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อ เร็ว ๆ นี้ ได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การป้องกันการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม

เนื่องจากการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม และการให้รับสินบน เป็นประเด็นสำคัญที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งหากเกิดการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมจะนำไปสู่การทุจริตได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน

เรื่องดังกล่าวตนจึงกำหนดให้การป้องกันการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นที่ทุกหน่วยงานในสังกัดจะต้องดำเนินการ

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ยังได้ออกแนวทางการปฏิบัติตามประกาศฯ เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรสังกัด ศธ. ยึดถือและปฏิบัติตามหลักในการป้องกันเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล กับ ประโยชน์ส่วนรวม การกระทำที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหรือการให้และรับสินบนอยู่เสมอ

รวมถึงสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงานและไม่เข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการที่ตนสังกัด กำหนดให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของราชการโดยเคร่งครัด อีกทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภายใน ศธ. เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นเตือน กรณีที่อาจเกิดความสุ่มเสี่ยงในการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดในโอกาสต่าง ๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ เกษียณอายุราชการ หรือในการเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น

"ศธ.จะจัดให้มีการคุ้มครอง ช่วยเหลือผู้แจ้งข้อมูล เบาะแส หรือร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือการยกย่อง ชมเชย การให้รางวัลแก่บุคลากรสังกัด ศธ.ในการส่งเสริมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต  ตลอดจนให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ. จัดทำรายงานสรุปการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท และข้อร้องเรียนเรื่องการให้และรับสินบนของบุคลากรในสังกัดต่อหัวหน้าส่วนราชการ ของแต่ละหน่วยงานทราบเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใสตรวจสอบได้" พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว 

อย่างไรก็ตาม มีอดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ในวงราชการแต่อย่างใด เพราะมีกฏระเบียบบังคับ และทุกคนระวังกันอยู่แล้ว

ที่สำคัญ คือ นักการเมืองที่เข้ามากำกับดูแล ศธ. ทั้งหลาย ควรเปิดเผยและแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นตัวอย่างก่อนเข้ารับตำแหน่งและหลังพ้นหน้าที่ก่อนใคร โดยไม่ต้องรอประกาศภายหลังสิ้นสุดวาระ รวมถึงข้าราชการระดับสูงด้วยเช่นกัน หากพบความผิดปกติยังสามารถจัดการใด ๆ ได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องปรามไปด้วยในตัว 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ 

https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage