เป็นเรื่อง...คณะครูสังกัด สพฐ.
เที่ยวเวียดนาม ไม่ได้ขออนุญาต
กรณีที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ว่า มีคณะครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง นำเงินค่าจัดค่ายลูกเสือของนักเรียน และเงินเบิกเด็กต่างด้าว รวมถึงเงินสะสมในคลังโรงเรียน ไปซื้อทัวร์เพื่อท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการกรรศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) โฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าทาง สพฐ. มิได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามผลดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พบว่า คณะข้าราชการครูดังกล่าว ได้ขออนุญาตลากิจส่วนตัวในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตไปต่างประเทศในระหว่างการลากิจส่วนตัวแต่อย่างใด
จึงถือเป็นความผิดวินัยฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนและไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 โดยนิติกร ผู้มีหน้าที่สืบสวนได้บันทึกถ้อยคำรับสารภาพตามบันทึกการสืบสวนข้อเท็จจริง ลงวันที่ 27 ต.ค.2566
ซึ่งความผิดดังกล่าว เป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งตามข้อ 1 (2) แห่งกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง พ.ศ. 2549 ซึ่งผู้บังคับบัญชา(ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา) จะดำเนินการทางวินัย โดยให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือหรือว่ากล่าวตักเตือน และนำเสนอขอความเห็นชอบต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ต่อไป
นางเกศทิพย์ รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวในประเด็นถึงการนำเงินของโรงเรียนเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศนั้น คณะข้าราชการครูได้ให้การว่า การเดินทางไปต่างประเทศดังกล่าว เป็นการไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในต่างประเทศโดยใช้เงินทุนส่วนตัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณของ สพฐ. แต่อย่างใด
โดยการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีนี้ กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมตามระเบียบราชการฯ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางวินัย ตามมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ต่อไป
ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ. นอกจากจะได้สั่งการให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียน รวมถึงสาธารณชนวางใจว่าสพฐ.จะดำเนินการอย่างโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะแจ้งผลความคืบหน้าให้สาธารณชนรับทราบโดยเร็ว
อนึ่ง edunewssiam ได้สอบถามอดีตผู้บริหารระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการท่านหนึ่ง ได้ให้คำแนะนำ ถึงการเดินทางไปต่างประเทศของคนเป็นข้าราชการ สรุปความได้ว่า...
...เพื่อความปลอดภัยของตัวข้าราชการเอง ตามระเบียบแล้วต้องขออนุญาตทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปประเทศไหนใกล้หรือไกลแค่ไหน เนื่องจากข้าราชการเป็นสมบัติอันมีค่าของราชการ
“...เคยมีกรณีที่ข้าราชการลากิจยาว ๆ คล่อมวันหยุด ไปเที่ยวยุโรป 8-9 วัน ไปประเทศในเครือจักรภพ ไปเกาหลี ไปญี่ปุ่น โดยไม่ลา แต่บังเอิญเกิดปัญหามีอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่นเจ็บไข้ได้ป่วย ไปมีเรื่องราวที่ต่างแดนจนเป็นปัญหา ที่ทำงานมารู้ในภายหลัง โดนสอบสวน โดนทำทัฑณ์บนก็มีจำนวนไม่น้อย
แต่หากจะทำเนียนๆ แอบ ๆ ไปกันแบบไม่มีใครรู้ หากไม่บอกใครในที่ทำงาน เช่น บอกว่าลากิจ แต่เดินทางไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ถามว่าทำผิดระเบียบไหม คงตอบยากต้องตัดสินใจเอง” อดีตผู้บริหาร กล่าว เพื่อความสบายใจควรศึกษาระบียบให้ชัดและขออนุญาตให้ถูกต้อง เป็นการป้องกันตัวเอง..." อดีตผู้บริหารกล่าว
อีกทั้งยังเตือนถึง การใช้ Passport เล่มน้ำเงินของข้าราชการ ต้องใช้ไปในภารกิจทางราชการประการเดียวเท่านั้น แต่ก็อาจมีข้าราชการ, นักการเมือง บางคนตีเนียนเอาเล่มน้ำเงินไปเดินทาง แต่ก็มี หลายประเทศในเอเชีย อาจไม่ถามหาหนังสือนำเ และบางประเทศเล่มน้ำเงินไม่ต้องขอวีซ่า ก็มี
อีกทั้ง ใครใช้เล่มน้ำเงิน ไปเที่ยว ก็ยังสามารถขอเอกสารไปราชการดูได้ มีคนใช้แล้วไปจีน ก็โดนมาแล้วก็มี
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage