สำรวจความคิดเห็น เลือกนายกสมาคม กีฬาฟุตบอล กับ มุมมองของแฟนกีฬา”

 

 

สำรวจความคิดเห็น เลือกนายกสมาคม

กีฬาฟุตบอล กับ มุมมองของแฟนกีฬา”

 

จากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯจะจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนใหม่ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองของแฟนกีฬา ในมิติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตลอดจนการพัฒนาและยกระดับวงการฟุตบอลไทย KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “ การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลกับมุมมองของแฟนกีฬา”

 

สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2566โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไป และ ผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,107 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 704 คน คิดเป็นร้อยละ 63.60 เพศหญิง 403 คน คิดเป็นร้อยละ 36.40

 

ผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า

 

ความสนใจที่จะติดตามการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ร้อยละ 85.01 สนใจ รองลงมาร้อยละ11.66 ยังไม่ตัดสินใจ และ ร้อยละ 3.33 ไม่สนใจ

 

คุณลักษณะของนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ส่วนใหญ่ร้อยละ 26.10 มีความรู้/ประสบการณ์และเข้าใจในบริบทการพัฒนาวงการฟุตบอล รองลงมาร้อยละ 24.34 มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนา ร้อยละ 20.20 มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่แสวงหาผลปะโยชน์ ร้อยละ 14.68 มีมนุษยสัมพันธ์สามารถประสานงานการบริหารจัดการได้ดีทั้งในและต่างประเทศ ร้อยละ 13.01 มีผลงานและได้รับการยอมรับในเชิงประจักษ์ และอื่น ๆ ร้อยละ 1.67

 

 

บุคคลที่เหมาะกับการเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.90 นวลพรรณ ล่ำซำ รองลงมาร้อยละ 21.35 พอลลีน งามพริ้ง ร้อยละ 14.51 ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ร้อยละ 11.04 วรงค์ ทิวทัศน์ ร้อยละ 10.25 พล ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง และอื่น ๆ ร้อยละ 2.95

 

ปัญหาที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนใหม่ควรเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ส่วนใหญ่ร้อยละ 27.27 ปัญหาการวางรากฐานการพัฒนาและเตรียมทีมชาติอย่างเป็นระบบ รองลงมาร้อยละ 20.90 ปัญหาการบริหารจัดการและยกระดับฟุตบอลอาชีพ ร้อยละ 16.87 ปัญหาการบริหารจัดการองค์กร ร้อยละ 16.50 ปัญหาด้านงบประมาณและสิทธิประโยชน์ของสโมสรสมาชิก ร้อยละ 16.16 ปัญหามาตฐานของกรรมการผู้ตัดสิน และอื่นๆร้อยละ 2.30

 

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า

 

จากผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า จากการที่กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬามหาชนและเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่แฟน ๆ ให้ความสำคัญและติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในระยะหลังวงการฟุตบอลไทยต้องประสบกับปัญหาในหลากหลายมิติ และเมื่อสมาคมกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ซึ่งจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ จึงก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวในการมีส่วนร่วมสำหรับการได้มาซึ่งผู้นำที่จะเข้ามาการขับเคลื่อนการบริหารจัดการ

 

อย่างไรก็ตามในการสำรวจครั้งนี้ ถึงแม้ว่ากลุ่มตัวอย่างหรือแฟนกีฬาส่วนใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการตอบแบบสอบถามจะไม่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งก็ตาม แต่ผลที่สะท้อนออกมาโดยเฉพาะผู้ที่เหมาะสมกับการนั่งในตำแหน่งนายกสมาคมคนใหม่

 

รวมทั้งปัญหาที่ต้องการให้มีการเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในมิติที่แฟนกีฬาต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่การพัฒนา ตลอดจนยกระดับวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปสู่ทิศทางอนาคตที่ดีกว่า ดังที่ชาติอื่นประสบความสำเร็จมาแล้ว

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage