แฉ! ติวเข้มสู่ความสำเร็จ เล่มละ 6 แสน "ทุจริตสอบครูผู้ช่วย" สพป.ขอนแก่น เขต 2 ตรงเป๊ะ-พร้อมเฉลย โดยชมรมวิชาการ

 

แฉ! ติวเข้มสู่ความสำเร็จ เล่มละ 6 แสน "ทุจริตสอบครูผู้ช่วย"

สพป.ขอนแก่น เขต 2 ตรงเป๊ะ-พร้อมเฉลย โดยชมรมวิชาการ

 

...หลังจากนี้ ถ้าดูจากผู้สอบได้ 44 คน และ ผู้สอบขึ้นบัญชีวงแคบมาก ถ้าผลออกมามีมูลว่า ชี้ความผิด บุคคลที่สอบบรรจุแต่งตั้งทั้งหมดต้องออกจากราชการทั้งหมด ไม่มีการระงับ จะทำการให้ออกจากราชการทั้งหมด ถ้าจ่ายเงินเข้ามาถือเป็นการสนับสนุนตกเป็นผู้ให้สินบนเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ให้ออกจากราชการสถานเดียว... 

 

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 มี.ค.67 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดขอนแก่น นายสมชาติ สง่าภาคภูมิ ผู้แทนภาคประชาชนในคณะกรรมการศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต รักษาการแทน ผอ.ป.ป.ช.ขอนแก่น ประกอบด้วย คู่มือติวเข้มสู่ความสำเร็จครูผู้ช่วย โดยชมรมวิชาการ ซึ่งเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญ 1 ใน 2 รายการ ที่ถูกระบุว่า มีผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย สังกัด สพป.ขอนแก่นเขต 2 ซื้อมาจากคณะกรรมการ อ.ก.ค.ศ.ขอนแก่นเขต 2 รายหนึ่ง ในราคา 600,000 บาท

 

โดยภายในเอกสาร พบว่ามีการกากบาทเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง และตรงกับข้อสอบที่ใช้ในการสอบแข่งขัน เมื่อวันที่ 19-20 ส.ค.2566

 

 

นายธีรัตน์ บางเพ็ชร รักษาการ ผอ.ป.ป.ช.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ร้องเรียนที่กล้าเปิดเผยและมีข้อมูลที่ชัดเจน รวมทั้งเอกสารในการกระทำความผิดมามอบให้กับ ป.ป.ช.และหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า สพป.ขอนแก่น เขต 2 มีกระบวนการจัดสอบที่พิรุธมากที่สุด คือการออกข้อสอบ และการตรวจข้อสอบ

 

“...โดยหลักทั่วไปแล้ว วิธีการปฏิบัติของผู้ออกข้อสอบทั้งหมด ต้องทำเป็นความลับ จัดให้อยู่รวมกันก่อนสอบจริง 24 ชม. โดยไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสาร แต่ปรากฎว่า ภาพรวมกระบวนการจัดสอบหละหลวมมาก กล้าพูดได้เลยว่า การสอบบรรจุข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือ ข้าราชการครู กลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้วในการเรียกรับเงิน นายธีรัตน์ กล่าว

 

กล่าวอีกว่า...ทั้งนี้ ป.ป.ช.เคยเสนอมาตรการให้ส่วนกลางจัดสอบทั้งหมดจนสำเร็จมาแล้ว หลังเกิดการทุจริตใหญ่ในจังหวัดทางภาคกลาง เมื่อปี 2558 ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย ซึ่งก็สามารถลดการทุจริตได้ด้วยวิธีการนี้ เพราะเมื่อมีการสอบในท้องถิ่น ก็จะสามารถเข้าถึงและจ่ายเงินให้คนที่มีอำนาจในการเปิดสอบได้ง่าย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ติดตามเฝ้าระวังในการบรรจุครูผู้ช่วยและพนักงานส่วนท้องถิ่น มีการร้องเรียนเข้ามาทุกปี

 

และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน สำนักงาน ปปช. ภาค 4 ทั้ง 12 จังหวัด วางมาตรการในการป้องกัน ได้ส่งเข้าหน้าที่ป้องกันและเจ้าหน้าที่สืบลงไปเก็บข้อมูลในพื้นที่ทุกจังหวัด และในวันรับสมัคร หรือ วันที่เปิดสอบทาง ป.ป.ช.จะเข้าไปเฝ้าระวังตรวจสอบในแต่กลุ่มผู้กระทำความผิด ได้วางแผนกันมาในการเรียกรับการออกข้อสอบต่าง ๆ

 

 

ซึ่งวันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศผลการประชุมคณะกรรมการครู ครั้งที่ 13/ 2566 และจากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลปรากฏว่า มีการทุจริตจริง จึงได้มีมติให้ยับยั้งการปฏิบัติหน้าที่ของประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 และ ผู้แทนครูใน อ.ก.ค.ศ.ขอนแก่น เขต 2 อีก 1 คน

 

“...นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลจากคณะกรรมการที่ทาง สพฐ. ได้แต่งตั้งสอบข้อเท็จจริงปรากฏคณะกรรมการสรุปว่ามีมูล ทาง ปปช.มีการติดตามเรื่องนี้ ได้รับหนังสือบัตรสนเทศเข้ามาเช่นเดียวกัน...”

 

 

กล่าวอีกว่า ผู้ร้องได้ให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้มาให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. เมื่อดูจากพฤติกรรมการออกข้อสอบ และการขายข้อสอบทั้ง 2 เล่ม โดยปกติแล้วการออกข้อสอบต้องทำเป็นความลับ กระบวนการต่าง ๆ ต้องมีการคัดเลือก แต่ฟังจากตรงนี้ปรากฏว่าการสอบ การคุมสอบหละหลวมมาก ซึ่งในกระบวนการต่าง ๆ ต้องแยกกัน  

 

“...อย่างไรก็ตาม ถ้ารับคำสั่งผู้มีอำนาจสูงสุดจะผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบผิดมาตรา 157 แต่คนที่เรียกรับเงิน จำนวน 600,000 บาท จะผิดมาตรา 149 และ 157 ส่วนเจ้าหน้าที่ ถ้าได้รับมาด้วยโดยการแบ่งเงินให้เข้ามาตรา 149 ด้วยเช่นกัน...”

 

ตบท้ายด้วยว่า หลังจากนี้ ถ้าดูจากผู้สอบได้ 44 คน และผู้สอบขึ้นบัญชีวงแคบมาก ถ้าผลออกมามีมูลว่า ชี้ความผิด บุคคลที่สอบบรรจุแต่งตั้งทั้งหมดต้องออกจากราชการทั้งหมด ไม่มีการระงับ จะทำการให้ออกจากราชการทั้งหมด ถ้าจ่ายเงินเข้ามาถือเป็นการสนับสนุนตกเป็นผู้ให้สินบนเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ให้ออกจากราชการสถานเดียว

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage