'บัญชีกลาง' เวียนหนังสือกระทุ้งหน่วยงาน เร่งเบิกจ่ายซื้อ-จ้าง โค้งสุดท้าย งบ'67 -“เตือนภัยมิจฉาชีพ”

 

'บัญชีกลางเวียนหนังสือกระทุ้งหน่วยงาน เร่งเบิกจ่ายซื้อ-จ้าง โค้งสุดท้าย งบ'67 -“เตือนภัยมิจฉาชีพ”

 

17 ส.ค. 2567 – นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2567 จนถึงวันที่ 9 ส.ค. 2567 หน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

โดยภาพรวม เบิกจ่ายแล้ว 2,738,176 ล้านบาท คิดเป็น 78.68% ของวงเงินงบประมาณ 3,480,000 ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำเบิกจ่ายแล้ว 2,413,491 ล้านบาท คิดเป็น 87.51% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 2,757,830 ล้านบาท, รายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 324,685 ล้านบาท คิดเป็น 44.96% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 722,170 ล้านบาท และมีการก่อหนี้แล้ว จำนวน 486,999 ล้านบาท คิดเป็น 67.44%

 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นหน่วยรับงบประมาณ ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ประมาณเดือนเศษ กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือแจ้งเวียนให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการโดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งรัดการตรวจรับงานสำหรับโครงการที่ผู้รับจ้างส่งมอบงานแล้ว และเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2567

 

สำหรับกรณี หน่วยงานที่ดำเนินการก่อหนี้ครบทุกโครงการ/รายการ และหรือดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายผลผลิตที่ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณแล้ว มีเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการใช้วงเงินได้ต่ำกว่าวงเงินที่ได้รับจัดสรร และ ยังมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายจากเงินงบประมาณเหลือจ่ายดังกล่าว

 

กรมบัญชีกลาง ขอให้เร่งรัดการโอนเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อไปดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นดังกล่าว โดยปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งดำเนินการก่อหนี้และเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

นางแพตริเซีย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้ประชาสัมพันธ์ลำดับ ผลการเบิกจ่าย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หัวข้อ ข้อมูลสถิติ ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ”

 

อย่างไรก็ดี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยภาพรวมเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า 93% รายจ่ายประจำเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า 98% รายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า 75% และการใช้จ่ายงบประมาณ (การก่อหนี้) รายจ่ายภาพรวม รายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน 100%

 

โดยคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐได้ผ่อนคลายระยะเวลาการดำเนินงานเพื่อให้หน่วยรับงบประมาณสามารถก่อหนี้ โครงการต่าง ๆ ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้อย่างคล่องตัวสอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินงานของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

 

ซึ่ง กรมบัญชีกลางได้ติดตามเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งได้มอบหมายให้คณะทำงานเฉพาะกิจในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในส่วนกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เร่งรัดและสนับสนุนการดำเนินงาน รวมทั้งให้คำแนะนำหน่วยรับงบประมาณทุกแห่ง ให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ตามแผนการใช้จ่ายเงิน

 

 

นอกจากนี้ นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลาง (บก.) ได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ กรมบัญชีกลาง หลอกลวงให้ดำเนินการต่างๆ เป็นระยะ และปัจจุบัน กรมฯยังคงได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้รับบำนาญและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องว่า มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง ชื่อผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ หลอกลวงว่ามีเงินที่ค้างรับจากกรมบัญชีกลางและให้ดำเนินการตามที่มิจฉาชีพแจ้ง ซึ่งบางรายต้องสูญเสียทรัพย์สิน

 

ดังนั้น จึงขอเตือนผู้รับบำนาญและทายาท รวมทั้งประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ โดยติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ของกรมบัญชีกลาง หรือ ช่องทางที่น่าเชื่อถือจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งรูปแบบและวิธีการที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้รับบำนาญและประชาชน มีหลายรูปแบบที่ทำให้หลงเชื่อ เช่น 

 

1. โทรศัพท์สอบถามและแจ้งข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ต้นสังกัด ข้อมูลเงินเดือน บำเหน็จบำนาญ และแจ้งให้ดำเนินการต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงบัญชีธนาคาร แจ้งให้ติดต่อขอรับบำนาญตกค้าง แจ้งให้ติดต่อขอรับเงิน ช.ค.บ. แจ้งให้สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์เพิ่มเพื่อนและอัปเดตข้อมูลผ่านไลน์ ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยใช้ชื่อ Digital Pension สแกนใบหน้า และกดลิงก์ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งกรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์หาผู้รับบำนาญหรือบุคคลในครอบครัวแต่อย่างใด

 

 

2. สร้างไลน์ปลอม โดยใช้ชื่อกรมบัญชีกลางหรือกระทรวงการคลัง และใช้ภาพอาคารกระทรวงการคลัง อาคารกรมบัญชีกลางหรือโลโก้กระทรวงการคลังและโลโก้กรมบัญชีกลาง เป็นภาพโพรไฟล์ และแจ้งข้อมูลต่างๆ เช่น แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐ โดยส่งรูปภาพหนังสือราชการปลอมและบัตรข้าราชการปลอม ที่แอบอ้างใช้ชื่อกรมบัญชีกลาง ชื่อผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันกรมบัญชีกลางไม่มีช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านไลน์ (LINE Official) แต่อย่างใด

 

3. สร้างหนังสือราชการปลอม เช่น หนังสือมอบอำนาจ หนังสือแจ้งการอัปเดตฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐและการตรวจสอบสิทธิต่างๆ เป็นต้น โดยส่งทาง e-mail ไลน์ sms และเพจ facebook ที่เกี่ยวกับการลงทุนหรือเพจกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งกรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายส่งหนังสือราชการทาง sms หรือ facebook แต่อย่างใด

 

ส่วนกรณีที่ได้รับ sms ส่งลิงก์เว็บไซต์ปลอมมาให้กดรับ หากไม่แน่ใจห้ามคลิกเข้าสู่เว็บไซต์โดยเด็ดขาด หากเผลอคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ไปแล้ว ห้ามคลิกปุ่มหรือลิงก์อื่น ๆ ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นั้น ให้คลิกปิดเว็บไซต์ทันที 

 

กรณีได้รับ sms ส่งหนังสือราชการที่ระบุว่ามาจากกรมบัญชีกลาง หรือได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าโทรมาจากกรมบัญชีกลางให้วางสาย ไม่ควรสนทนาต่อและไม่คลิกหรือกดข้อความใด ๆ

  

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ call center ของกรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400 ในวันและเวลาทำการ.