ผู้สื่อข่าว สำนักข่าว EdunewsSiam รายงานความคืบหน้าการเคลื่อนไหวคัดค้านผลการสรรหาตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (ผอ.สกสค.) จังหวัด/กรุงเทพมหานคร รวม 64 จังหวัด

โดยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 นายมาโนช ห่วงศรี นายกสมาคมครูจังหวัดนครสวรรค์ ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาตำแหน่ง ผอ.สกสค.จังหวัดนครสวรรค์ และเครือข่ายคัดค้านผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ว่า

จากที่เครือข่ายคัดค้านผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ได้เข้ายื่นหนังสือคัดค้านผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ต่อนายนพคุณ รัฐผไท ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.น่าน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ณ อาคารรัฐสภา เกียกกาย กทม.

โดยกล่าวหาว่า การสรรหามีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกรณีมีกลุ่มผู้สมัครที่ได้รับการสรรหาจำนวนประมาณ 20 คน เคยทำงานใน จ.บุรีรัมย์ โดยส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้บริหารในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และไม่ได้มีภูมิลำเนาหรือเคยทำงานในจังหวัดที่สมัคร ซึ่งผิดปกติวิสัย

จึงขอให้คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหา เพื่อยกเลิกผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร และประกาศการสรรหาฯของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง

ซึ่งล่าสุดทางเครือข่ายฯได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เชิญให้ไปชี้แจงรายละเอียดการกล่าวหาในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 นี้ และคงเชิญนายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาทั้งหมดไปชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งทราบว่าในกระบวนการสรรหามีกรรมการพิจารณาที่สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.แต่งตั้งขึ้น จำนวน 5 ชุด

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าว EdunewsSiam รายงานด้วยว่า ในวันที่เครือข่ายคัดค้านผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อนายนพคุณ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา และ น.พ.ชลน่าน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.น่าน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย กทม.

ได้มีการจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำรัฐสภา โดย น.พ.ชลน่านแถลงว่า มีการกล่าวหาว่า ผลการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร รวมทั้งระเบียบการสรรหาที่ออกมา ส่อไปในทางที่จะเอื้อให้เกิดความไม่ชอบมาพากล ทางเครือข่ายคัดค้านผลการสรรหาฯจึงมาร้องเรียนคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร

เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ได้ชะลอการทำสัญญาจ้างผู้ได้รับการสรรหาเป็น ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 ธันวาคม 2563 นี้ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริง

ขณะที่นายนพคุณ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า เรื่องร้องเรียนนี้เกี่ยวข้องกับขวัญและกำลังใจในการทำงานของครูอาจารย์ทั้งประเทศ เพราะส่อว่าการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ไม่ชอบมาพากล ไม่มีความเป็นธรรม

เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบสรรหาใหม่ โดยเปิดกว้างเอาใครก็ได้ไปสมัครเป็น ผอ.สกสค.แต่ละจังหวัด แล้วส่วนกลางเป็นคนตัดสิน จากเดิมที่กระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัดคัดเลือกกันเองก่อน

ดังนั้น ผลการสรรหาที่ออกมาจึงผิดสังเกต จาก 60 จังหวัด ปรากฏว่าผู้ได้รับการสรรหาประมาณ 20 จังหวัด เกี่ยวข้องกับบุรีรัมย์ทั้งหมดเลย ซึ่งจากที่ได้ฟังเสียงจากบางจังหวัดก็มีการต่อต้านกันแล้วว่า ไม่ต้อนรับ ผอ.สกสค.ที่ส่วนกลางตัดสิน

ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อขวัญและกำลังใจในด้านสวัสดิการและสวัสดิภาพของครูอาจารย์อย่างมาก ดังนั้น คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร จะได้ดำเนินสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทั้งประเด็นเรื่องความโปร่งใส ความเหมาะสม และระเบียบการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป

รวมทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าว

“คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร จะสอบสวนทุกประเด็นให้ได้ข้อเท็จจริงปรากฏทั้งหมด ยืนยันว่าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรแอบแฝงแน่นอน” (ชมรายละเอียดการแถลงข่าวในคลิป)

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)