สภาพัฒน์ฯ เปิดตัวเลขแม่วัยใสลด อย่าเพิ่งดีใจ หากการศึกษายังหลุดลอย

สภาพัฒน์ฯ เปิดตัวเลขแม่วัยใส ลด

อย่าเพิ่งดีใจ หากการศึกษายังหลุดลอย 

EDUNEWSsiam.com < สกู๊ป/บทความ

 

นับเป็นข่าวดีจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ตัวเลขแม่วัยรุ่นลดลง แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์ให้แม่วัยรุ่นได้เรียนต่อในสถานศึกษา แต่ในทางปฏิบัติก็ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องหยุดเรียนหรือลาออกจำนวนมาก ต้องหลุดจากระบบการศึกษา ส่งผลต่อโอกาสที่จะมีงานทำและมีรายได้ที่เพียงพอน้อยมาก ทำให้ต้องอยู่ด้วยการพึ่งพิงผู้อื่น จะมีเพียงร้อยละ 23 เท่านั้น ที่กลับมาเรียนในสถานศึกษาเดิม  


สภาพัฒนาฯ เปิดตัวเลขแม่วัยรุ่นให้เห็นว่า อัตราการมีบุตรของวัยรุ่นอายุ 15 ถึง 19 ปี ในประเทศไทยภาพรวมลดลงจาก 51 คนต่อประชากร 1,000 คน ในปี 2558 เหลือ 23 คนต่อประชากร 1,000 คน ในปี 2562

แต่ยังพบอัตราการมีบุตรของแม่วัยรุ่นมาก ในภาคเหนือและภาคใต้

โดยภาคเหนืออัตราการมีบุตร 42 คนต่อประชากร 1,000 คน ภาคใต้ อัตราการมีบุตร 35 คน ต่อประชากร 1,000 คน และอัตราการมีบุตรของแม่วัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 15 (แม่วัยใส) มากที่สุด คือ ร้อยละ 0.8 โดยแม่วัยรุ่นส่วนมาก มีการศึกษาน้อย คือ จบการศึกษาระดับประถมศึกษา มากที่สุด 130 คนต่อประชากร 1,000 คน และจะลดลงเรื่อย ๆ ตามระดับการศึกษาที่เพิ่มขึ้น

สะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษามีส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ รวมทั้งครัวเรือนยากจน จะมีปัญหาแม่วัยรุ่นสูงกว่าครัวเรือนรายได้สูง

แม้ว่า รัฐบาลจะมีนโยบายส่งเสริมแม่วัยรุ่นให้อยู่ต่อในระบบการศึกษา เพื่อจะได้มีโอกาสในการมีงานทำที่ดีและยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญด้วยรับเข้าศึกษา หาวิธีการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็กและเยาวชนที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน ดังกล่าวอย่างจริงจัง เนื่องจากความรู้จะเป็นประตูสู่การมีงานทำ มีรายได้ เพื่อเลี้ยงดูตนเองและลูก รวมทั้งมีความห่วงใยเยาวชนที่ต้องเผชิญกับความผิดพลาด แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่า หากเยาวชนได้รับโอกาส ทุกคนย่อมสามารถสร้างชีวิตใหม่ที่ดีได้ หากได้รับการศึกษา

อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการ แม้จะมีสถานศึกษาในสังกัด และ การศึกษานอกโรงเรียน สังกัด สป.ศธ.ดำเนินการไปตามลำพังตามหน้าที่ก็คงยาก เพราะที่ผ่านมา แทบไม่พบรายงานตัวเลขในภาพรวมในกลุ่มเด็กและเยาวชนดังกล่าว หวนกลับมาเรียนในสถานศึกษาเดิม หรืออาจจะมีบ้างแต่ดูเป็นเรื่องไม่เปิดเผยถึงสภาพปัจจุบันและปัญหาอันควรนำมาพัฒนาหรือแก้ไข เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลดังกล่าวอย่างแท้จริง

ล่าสุดน่ายินดีว่า นโยบายของรัฐบาล ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมบูรณาการ จัดระบบการดูแล ช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตั้งครรภ์  ให้ได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่อง ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งจัดระบบการส่งต่อให้ได้รับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์และการจัดสวัสดิการสังคมที่ดีภายใต้บรรยากาศที่แวดล้อมด้วยความอบอุ่นและเข้าใจ สามารถรับรู้อนาคต เพื่อให้โอกาสเด็กและเยาวชนที่ตั้งครรภ์ในสถานศึกษา ไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกในการอยู่ร่วมกัน   

ทราบมาว่า ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้ขานรับและดำเนินการจัดสวัสดิการให้กับแม่วัยรุ่นที่ประสบปัญหา อาทิ การให้ความช่วยเหลือแก่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์และครอบครัว การฝึกอาชีพตามความสนใจและความถนัดแก่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ก่อนและหลังคลอด การประสานงานเพื่อจัดหางานตามความเหมาะสม จัดหาครอบครัวทดแทนในกรณีที่วัยรุ่นไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรด้วยตนเองได้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข คงมีแผนรองรับและหลายหน่วยงานในสังกัด ดำเนินการอยู่แล้วในความร่มมือเดิม

นอกจากนี้ รัฐบาลคงลืมไปว่ายังมี  วิทยาลัยชุมชน สังก้ดกระทรวงการอุุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ฯ ที่สามารถเข้ามาเป็นกำลังหลักในการช่วยนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตั้งครรภ์ ได้เป็นทางเลือกเข้าศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต สอดคล้องต่อความต้องการและการประกอบอาชีพ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้อัตราส่วนจำนวนแม่วัยรุ่นจะลดลงมากในรอบสองสามปีที่ผ่านมา แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจต่อการเดินหน้าแก้ปัญหาแม่วัยรุ่น ต้องเริ่มจากการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเพศ ทักษะการใช้ชีวิต และเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยทั้งหมด แม้จะอยู่ในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาฯก็ตาม

ก็คงต้องมีการทบทวนเนื้อหาปรับให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เนื่องจากสภาพแวดล้อมและบริบทสังคม ณ ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเมื่อได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการแล้ว ต้องไม่ทำงานแบบเดิม ๆ เสมือนหนึ่งเป็นงานฝากที่ติ่งมา

และต้องไม่แก้ปัญหาแบบฉาวฉวย คลุมเครือ ต่างคนต่างทำตามสภาพ อย่างที่เป็นมา 

ตุลย์ ณ ราชดำเนิน                                                                        tulacom@gmail.com

EDUNEWSsiam.com

editor@edunewssiam.com

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)