สอบครูผู้ช่วยอาชีวะส่อวุ่น! ตรวจข้อสอบรหัส 202 ผิดพลาด “ค.ร.อ.ท.” จี้ สอศ.ตั้ง กก.ตรวจสอบใหม่ทุกสาขาวิชา เรียกร้องจัดสอบบรรจุกรณีพิเศษอีกรอบ เผยยังเหลืออีก 778 ตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) เปิดเผยกรณีการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กรณีพิเศษ ประจำปี 2563

โดยมีการประกาศรับสมัครบุคลากรภายใน สอศ. เมื่อวันที่ 1-7 มิถุนายน 2563 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มทั่วไป 71 กลุ่มวิชา จำนวน 1,869 อัตรา และกลุ่มเขตพัฒนาพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 30 กลุ่มวิชา จำนวน 73 อัตรา รวมทั้งสองกลุ่ม จำนวน 1,942 อัตรา

ต่อมา สอศ.ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ (ภาค ก.และ ภาค ข.) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 และดำเนินการสอบภาค ก. และ ข. เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ประกาศผู้สอบผ่านภาค ก. และ ข. เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 และให้ผู้สอบผ่านภาค ก. และ ภาค ข. สอบภาค ค.(สัมภาษณ์) ในวันที่ 20-21 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ซึ่งกระบวนการต่างๆ ผ่านมาแล้วทุกขั้นตอน เหลือเพียงการประกาศรายชื่อขั้นตอนสุดท้ายเพื่อบรรจุแต่งตั้ง แต่กลับมีเหตุการณ์ผิดปกติของกระบวนการสอบครั้งนี้เกิดขึ้น สร้างความงุนงงแก่บุคคลทั่วไป

เมื่อ สอศ.ได้ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูอาชีวศึกษา (อกคศ.) เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 และได้แจ้งในที่ประชุม อกคศ.ว่า การดำเนินการสอบครั้งนี้มีข้อผิดพลาดในขั้นตอนการตรวจข้อสอบ โดยได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งดำเนินการตรวจข้อสอบ

และมีข้อผิดพลาดของเครื่องตรวจข้อสอบระหว่างการตรวจกลุ่มวิชารหัส 202 ช่างกล จึงทำให้มีการผิดพลาดในการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค. ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน สอศ.จึงขออนุญาต อกคศ.แจ้งให้ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบและแก้ไขใหม่ จำนวน 30 คน ได้มาทำการสอบภาค ค.(สัมภาษณ์) ในวันที่ 3 เมษายน 2564 นี้

ประธาน ค.ร.อ.ท.กล่าวต่อว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำลายความเชื่อมั่น และสร้างความเสียหายให้กับ สอศ.เป็นอย่างยิ่ง ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้กับการทำงานระดับชาติโดยคนมืออาชีพ เพราะก่อนประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก.และ ภาค ข. ต้องดำเนินการตรวจสอบด้วยความรอบคอบ

แต่เหตุใดกลับมีเรื่องผิดปกติของเครื่องตรวจข้อสอบในสาขาวิชา 202 เพียงสาขาเดียวจริงหรือไม่ และมั่นใจอย่างไรว่าสาขาอื่นไม่มีปัญหา สอศ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีที่มาอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบในความบกพร่องครั้งนี้ แล้วหรือไม่ หรือเพียงแค่แจ้งเรื่องผู้มีสิทธิ์เข้าสอบเพิ่มขึ้น แล้วจบกระบวนการได้เลยหรือ

ประกอบกับ ค.ร.อ.ท.ได้ติดตามกระบวนการจัดสอบมาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนกล่าวหาถึงปัญหาข้อบกพร่องของข้อสอบ มีการตั้งข้อสังเกตถึงความมีเกณฑ์มาตรฐานของข้อสอบบางสาขาวิชา ที่ทำให้ผู้สอบผ่านภาค ก. และ ภาค ข.มีจำนวนน้อยอย่างน่าตกใจ

เช่น สาขาการบัญชี รับ 105 ตำแหน่ง สมัคร 457 คน แต่สอบผ่านแค่ 39 คน เป็นต้น และโดยภาพรวมมีผู้สอบผ่านไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นการเสียโอกาสทางการศึกษาและงบประมาณอย่างยิ่ง

นายเศรษฐศิษฏ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ มีเสียงเรียกร้องให้ สอศ.จัดสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษอีกครั้ง เพราะตามอัตราที่ขออนุมัติจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีจำนวน 1,942 ตำแหน่ง แต่การจัดสอบครั้งนี้มีผู้สอบไม่ผ่านตามจำนวนที่ขออนุญาตจาก ก.ค.ศ. ยังขาดอีก 778 ตำแหน่ง

ฉะนั้น เครือข่ายคนรักษ์อาชีวะจึงขอเรียกร้องให้ สอศ.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้อผิดพลาดในการตรวจข้อสอบดังกล่าว และให้ดำเนินการตรวจสอบทุกสาขาวิชา เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทุกคน

ให้ สอศ.ประสาน ก.ค.ศ.เพื่อขอจัดสอบบรรจุครูผู้ช่วยกรณีพิเศษอีกครั้ง ในตำแหน่งหรือสาขาวิชาที่ยังไม่สามารถบรรจุและแต่งตั้งได้ เนื่องจากไม่มีผู้สอบผ่านอีกจำนวน  778 ตำแหน่ง โดยให้สิทธิ์กับบุคลากรภายใน สอศ. ซึ่งทำงานมาอย่างยาวนานและเสียสละเพื่อองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง ให้บุคลากรเหล่านี้ได้มีโอกาสความมั่นคงในชีวิตบ้าง

“ทั้งนี้ เครือข่าย ค.ร.อ.ท.จะเป็นตัวแทนเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามลำดับ เพื่อปกป้องและให้ความเป็นธรรมแก่บุคลากรอาชีวศึกษาต่อไป” นายเศรษฐศิษฏ์ กล่าว

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)