สืบสาน รักษา ต่อยอด “ตามรอยพ่อ ชีวิตมีสุขแบบพอเพียง”

ผึ้งชันโรงหรือผึ้งจิ๋ว เป็นผึ้งกลุ่มเดียวกับผึ้งทั่วไปแต่ไม่มีเหล็กใน ให้น้ำผึ้งที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก จึงมีผู้สนใจหันมานิยมเลี้ยงกันมากขึ้นด้วยสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และก็มีราคาค่อนข้างแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป

         

        คุณเนตนภา บุญหา  ผู้สนใจอีกคนที่ให้ความสนใจหันมาเลี้ยงผึ้งชันโรง  บริเวณรอบบ้านซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 213 หมู่ที่ 6 บ้านไพรวัน  ตำบลไพรวัน  อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส 

คุณเนตรนภาเป็นเจ้าหน้าที่ งานป่าไม้ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ปฏิบัติงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวรายวันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ต่อเนื่องมาจนถึงปี พ.ศ. 2550  ได้สอบเป็นพนักงานราชการในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนถึงปัจจุบัน และยังเป็นวิทยากรบรรยาย และสาธิตการแปรรูปกิจกรรมต่าง ๆ ของงานป่าไม้  เช่น การทำยาหม่องจากน้ำมันใบเสม็ด  และกิจกรรมอื่น ๆ ที่งานป่าไม้รับผิดชอบ 

อีกทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาดูงานกับโครงการต่าง ๆ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ที่ได้จัดขึ้นโดยนำเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ฯ ไปศึกษาดูงานการทำเกษตรหลากหลายรูปแบบในต่างจังหวัด  ได้สะสมความรู้เรื่อยมาและเริ่มปรับใช้ที่บ้านของตัวเองด้วยการปลูกพืชผักไม้ผลหลากหลายชนิด เช่น ใบกระเปราะ  ใบสะระแหน่  ผักสลัด แก้วมังกร  แตงโม  ส่วนใหญ่นำมาบริโภคในครัวเรือนส่วนที่เหลือก็ส่งจำหน่าย ซึ่งจากการปลูกพืชผักรอบบ้านก็ส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงานบ้าง วันหยุดบ้าง  แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่ก็มีความสุขบางครั้งลูกชายก็กลับมาช่วยทำการเกษตร

ในปีพ.ศ. 2563 เริ่มหันมาเลี้ยงผึ่งชันโรง หลังจากการศึกษาดูงานจากแหล่งต่าง ๆ  โดยเฉพาะที่ฟาร์มผึ้งปันแต ซึ่งการเลี้ยงครั้งแรก ลองเลี้ยงแค่ 3 รัง  (กล่องไม้ ยาว 30 ซ.ม. กว้าง 15 ซ.ม. สูง 15 ซ.ม.)  ได้รับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจาก อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา  ส่วนการปลูกพืชผักยังมีการปลูกพืชผักสวนครัวแบบหมุนเวียนเรื่อยไป และปลูกผักคื่นช่าย ต้นหอม โดยปลูกเลี้ยงในกระถางเพื่อจำหน่ายพร้อมกระถาง     

        

         ปัจจุบันนี้ได้ขยายเครือข่ายการเลี้ยงผึ้งชันโรงให้แก่เพื่อนบ้านในหมู่ที่ 2, 3 และหมู่ที่ 5 บ้านไพรวัน และจาก หมู่ที่ 3 ตำบลเจ๊ะเห  อำเภอตากใบ จำนวน 11 ราย  บางรายเริ่มมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำผึ้งบ้างแล้ว ส่วนใหญ่สมาชิกจะนำน้ำผึ้งมาบริโภคในครัวเรือนก่อน  

ที่สำคัญขณะนี้คุณเนตนภา  บุญหา ได้ผ่านการขึ้นทะเบียนวิสาหกิจชุมชน จากสำนักงานเกษตรอำเภอตากใบแล้ว  ส่วนการจำหน่ายน้ำผึ้งชันโรง ได้จัดจำหน่ายโดยบรรจุขวดขนาด 75 ,180, 350,750 มิลลิลิตร ราคาอยู่ที่ ซีซี ละ 2 บาท   พร้อมทั้งจัดส่งใหลูกค้าที่มี order มาทางสื่อต่าง ๆ 

 

ทุกวันนี้มีผู้สนใจสั่งกล่องไม้ สั่งถาดน้ำหวาน สั่งน้ำผึ้ง สั่งแม่พันธ์พร้อมเลี้ยง และมีผู้สนใจแวะเวียนมาดูวิธีการเลี้ยงผึ้ง วิธีขยายพันธุ์ และการเก็บน้ำหวานอยู่เสมอ   ทุกวันนี้คุณเนตนภา  รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และได้ดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งได้ปลูกพืชผัก ไม้ผล   

การเลี้ยงผึ้งชันโรงทำให้มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นและที่สำคัญมีความสุขมากขึ้นได้อยู่กับธรรมชาติ  ขณะนี้กำลัง  ขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีบ้านไพรวัน เป็นอีกก้าวหนึ่งเพื่อต่อยอดกลุ่มเครือข่ายการเลี้ยงผึ้งชันโรงบ้านไพรวัน  อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

         

        และนี่เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง ของเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ที่สามารถสืบสาน รักษา ต่อยอด  นำความรู้ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ซึมซับวันละนิด รู้จักประยุกต์ คิดค้นวันละหน่อย  ด้วยจิตและใจที่มุ่งมั่น ต้องสานฝันให้สำเร็จ  พออยู่ พอกิน พอเพียง สุขภาพแข็งแรง และ นี่คือความสุขแบบฉบับ "เนตนภา บุญหา"   

ผู้สนใจการเลี้ยงผึ้งชันโรง และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ คุณเนตนภา บุญหา  โทรศัพท์ 085-0780298