'ตรีนุช' สั่งสแกนโควิด-19 ทุก ร.ร. ย้ำมีกรณีติดเชื้อให้หยุด on-site ทันที

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า จากที่ ศธ.ให้เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในสถานกาณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ตนได้ติดตามการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาทั่วประเทศ

และพบว่าเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 การเปิดเรียนแบบ on-site เรียนที่โรงเรียน จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัย การปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เช่น เคร่งครัดให้เด็กสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างในโรงเรียน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานศึกษา ตนจึงมีนโยบายเร่งด่วนให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

เข้มข้นเรื่องการตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งของรัฐและเอกชนว่า ได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่

หากโรงเรียนใดไม่เป็นไปตามมาตรการให้เร่งปรับปรุงทันที และหากทำไม่ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก็ต้องหยุดการเรียนการสอนแบบ on-site แล้วเลือกใช้รูปแบบอื่นในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนแทน เพื่อปรับปรุงในส่วนของโรงเรียนให้ได้ตามมาตรฐานตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อความความปลอดภัยสูงสุดของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครอง และประชาชนทุกคน

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการจะมอบหมายให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานทุกจังหวัด ตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก ศธ. กระทรวงสาธารณสุข และผู้ปกครอง เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา

จัดให้มีการนิเทศ ตรวจติดตามทุกโรงเรียนเป็นประจำ และจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดย่อยจำนวนหลายคณะ ซึ่งเป็นตัวแทนของไตรภาคีในพื้นที่ ลงสแกนสถานศึกษาในพื้นที่ของตนเอง เพื่อตรวจสอบหาช่องโหว่ และปรับปรุงพัฒนาอุดรอยรั่วในส่วนนั้น รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความหย่อนยานเรื่องมาตรการความปลอดภัย 

"ในกรณีที่มีนักเรียนในโรงเรียนนั้นๆ ติดเชื้อเพียงคนเดียว หรือในชุมชนที่เป็นเขตบริการมีชาวบ้านติดเชื้อ ให้โรงเรียนขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปิดการเรียนการสอนแบบ on-site เพื่อทำความสะอาดโรงเรียน แล้วเลือกใช้รูปแบบจัดการเรียนการสอนแบบอื่นให้แก่นักเรียนในระหว่างที่ปิดโรงเรียน เช่น เรียน On Line ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือเรียนแบบ On Hand โดยจัดส่งหนังสือ แบบเรียน แบบฝึกหัด หรือ ใบงานให้นักเรียนทำที่บ้าน เป็นต้น"

น.ส.ตรีนุชกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าการที่มีคณะกรรมการชุดย่อย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่จำนวนหลายชุด จะทำให้สามารถสแกนสถานศึกษาทุกแห่งแล้วเสร็จโดยเร็ว และได้ข้อมูลจริง สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าโรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากโควิด-19 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)