นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานประชุมโครงการสร้างผู้ประกอบการ "หลักสูตรการเขียนแผนธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์" พร้อมเปิดป้ายศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ ณ วิทยาลัยเทคนิค (วท.) มีนบุรี โดยมีนายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี พร้อมคณะให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
ศูนย์บ่มเพาะอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธุรกิจของนักเรียน นักศึกษาก่อนเรียนจบออกไปเผชิญกับโลกแห่งอาชีพจริง
ซึ่งล่าสุดศูนย์บ่มเพาะอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ได้ดำเนินโครงการสร้างผู้ประกอบการ "หลักสูตรการเขียนแผนธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์" เพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา เพิ่มความรู้และทักษะประสบการณ์ในเชิงพาณิชย์ให้ทันต่อการพัฒนาทางการตลาดยุคดิจิทัล
รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการให้แก่นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนให้มีรายได้ระหว่างเรียน และสามารถประกอบอาชีพได้ทันแผนการตลาดยุคใหม่
นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการ รมว.ศธ.ได้เยี่ยมชมโครงการปรับเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีกับวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร โดยนักศึกษาแผนกวิชาเทคนิคยานยนต์ พร้อมได้มอบทุนเริ่มต้นเพื่อนำไปปรับปรุงจักรยานยนต์เก่ามาทำเป็นระบบไฟฟ้าไว้ใช้ในกิจกรรมของวิทยาลัย
นางสาวอรพินทร์ ยังกล่าวเชิญชวนผู้สนใจที่มีความประสงค์จะบริจาครถจักรยานยนต์ที่ไม่ใช้แล้ว สามารถบริจาคได้ที่วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวะได้ใช้ต่อยอดพัฒนาเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งมีต้นทุนคันละประมาณ 5,000 บาท และเมื่อพัฒนาเสร็จแล้วก็สามารถนำไปบริจาคต่อได้
ด้าน นายพงศ์วรินทร์ บุญยามา นักศึกษา ปวส.1 แผนกเทคนิคยานยนต์ วท.มีนบุรี กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนได้นำรถจักรยานยนต์ป๊อปที่ไม่ใช้แล้วมาปรับปรุงทำเป็นระบบไฟฟ้า ใช้แบตเตอรีขับเคลื่อน สามารถใช้งานได้จริง วิ่งได้ครั้งละประมาณ 30 กิโลเมตรต่อการชาร์ทเเบตเตอรีหนึ่งครั้ง ใช้วิ่งในวิทยาลัยหรือในชุมชนได้ ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำมัน ทั้งช่วยลดมลพิษอีกด้วย
ทั้งนี้ นางสาวอรพินทร์ เลขานุการ รมว.ศธ. พร้อมคณะวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ยังได้เดินทางไปมอบอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ที่โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 เขตหนองจอก กทม.ด้วย
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
