ดร.สัมนาการณ์ บุญเรือง ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนได้วิจัยและสนับสนุนให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ และวิทยาลัยสารพัดช่างบุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้จัดสร้างหุ่นยนต์ครู EDU และหุ่นยนต์ช้างพูดได้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสุรินทร์ วัตถุประสงค์เพื่อจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนได้เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และเห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทยด้วยกันว่า มีความสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการตอบโจทย์คำถามของสังคมว่า เด็กไทยจบการศึกษาอะไรถึงจะมีงานทำ ซึ่งตนมองว่าเรื่องเทคโนโลยีจะเป็นบันไดในการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเด็กไทยได้อย่างดี โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพราะจะทำให้โลกดำเนินก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน และจะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เด็กไทยก้าวทันโลกอย่างแท้จริง
จึงควรต้องปลูกฝังทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ให้กับเด็กไทย ตั้งแต่วัยเรียนระดับประถมศึกษาต่อเนื่องไปถึงระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ซึ่งในส่วนของเด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตนได้ผลักดันให้สถานศึกษาในพื้นที่ได้ให้ความสำคัญและกระตุ้นให้ดำเนินการในเรื่องนี้
ดร.สัมนาการณ์ กล่าวว่า เทคโนโลยี AI ถือเป็นเรื่องที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนกันอย่างจริงจัง ประเทศไทยจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะก้าวไม่ทันโลก โดยต้องปลูกฝังทักษะและองค์ความรู้ให้กับเด็กไทยตั้งแต่ระดับประถมศึกษา โดยต้องให้เกิดขึ้นในทุกจังหวัด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาจจะต้องเข้ามาเป็นแม่งาน มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันให้มีการจัดตั้งศูนย์ AI Thailand ขึ้น
“ศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางในการจัดหา จำหน่าย และเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ ที่สำคัญเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับครู อาจารย์ และนักเรียน นักศึกษา ซึ่งในอนาคตเมื่อมียอดสั่งซื้อหุ่นยนต์ AI ชนิดใดเข้ามา ทางศูนย์แห่งนี้ก็สามารถว่าจ้างให้นักเรียน และนักศึกษาอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัยได้ผลิตป้อนสู่ตลาด ซึ่งได้ทั้งสร้างองค์ความรู้เพิ่มเติมและรายได้ให้กับเด็กไทยไปพร้อม ๆ กัน” ศธจ.สุรินทร์ กล่าว
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
