จันโททัย เขียน :"แก้ไขการศึกษาด่วนที่สุด"

 

"แก้ไขการศึกษาด่วนที่สุด"

 

 จันโททัย : เขียน

 

เป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งจนได้สำหรับการศึกษาของไทยเมื่อปรากฏผลการประเมินของ PISA ของเด็กไทยประจำปีนี้ในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ทั้ง 3 วิชาตกต่ำสุดขีดในรอบ 20 ปีจนหน้าใจหาย ไม่ต้องไปแก้ตัวไม่ต้องไปแก้ต่างใดๆทั้งสิ้นในเมื่อผลคะแนนออกมาอย่างนี้แล้วก็ต้องยอมรับกัน

   จะใช้วิธี "ปฏิรูปการศึกษา"

 

คงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรอีกแล้วเพราะปฏิรูปกันมาเกือบ 10 คนแล้วไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้แต่คนเป็นกรรมการเกือบร้อยคนทุกครั้งที่ตั้งกรรมการ

   จะ "ปฏิสังขรณ์การศึกษา"

 

ก็ดูจะไม่เข้าที่เข้าทางเพราะจะมาปะผุตรงโน้นตรงนี้ ก็ได้แต่แผลเพิ่มมากขึ้นทุกทีสำหรับการศึกษาจะ "ปฏิบัติการศึกษา" อย่างไร ก็ยังตกหลุมตกร่องและเป็นหลุมดำเสียด้วย ตะกายอย่างไรก็ไม่พ้นจากหลุม เหลือวิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือ  "ปฏิวัติการศึกษา" คือ ทำอย่างว่องไว ฉับพลัน ด่วนที่สุด เช่น

 

1 ในกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ตัวรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ หรือ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ต้องหาคนจากผู้ที่อยู่ในวงการศึกษา หากหาไม่ได้ ก็ต้องเอาที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญระดับก่อนประถมศึกษา  ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และ ระดับอาชีวศึกษา อย่างละ 1 คน มาเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรี จะมะงุมมะงาหราอยู่อย่างนี้ไม่ไหวแล้ว คุณภาพการศึกษาจะเป็นที่โหล่ในประเทศกลุ่มอาเซียนอยู่รอมร่อขายขี้หน้า ไพร่ฟ้าประชาชี

 

2 เลขาธิการหรือสายอื่นขึ้นมาเป็น สามารถเป็นได้ แต่คุณภาพการศึกษา ก็ดูเอาเถอะตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มันเละตุ้มเป๊ะขนาดไหน

 

3 ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมและมัธยม ควรได้รับการพัฒนาให้ลงมาเล่นเรื่องคุณภาพงานวิชาการโดยเฉพาะ ไม่ต้องไปทำเรื่องอื่น ขยันออกเยี่ยมเยียนโรงเรียนรวมกับศึกษานิเทศก์อยู่เป็นประจำแทบทุกวันได้ยิ่งดี เพราะขืนให้หมกมุ่นอยู่กับงานอย่างอื่น ประเมินผลนักเรียนคราวใด ก็ต้องมานั่งปวดต่อมลูกหมากอย่างนี้ล่ะครับพระเดชพระคุณ

 

4 หาคนช่วยสอนโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูไม่ครบชั้นโดยด่วน เช่น โรงเรียนที่มีครูทั้งโรงแค่ 2-3 คน น่าจะถึงเวลาที่จะต้องขอความช่วยเหลือไปยังกองพลทหารให้ส่งทหารที่พอมีความรู้ความคิดความอ่าน ไปช่วยสอนเด็กในโรงเรียนชั้นประถมบ้างแล้วจะดีไหม

 

อีกทั้ง ขอความอนุเคราะห์เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะอำเภอขอให้พระ เณร เถร หรือชี ที่พอมีความรู้ไปช่วยสอนในโรงเรียนประถมบ้างจะได้ไหม  หรือไม่ก็ขอความกรุณาข้าราชการครูที่อำลาชีวิตราชการไปแล้ว

 

แต่ยังมีสติปัญญามีเรี่ยวแรงมีร่างกายที่แข็งแรงและมีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนครูอย่างนี้ สมควรจะถึงเวลาที่จะต้องร่วมมือกันขนาดใหญ่แล้วก่อนที่ผลการเรียนของเด็กจะดิ่งเหวไปมากกว่านี้

 

5 ผู้บริหารโรงเรียนในทุกระดับทั้งประถมและมัธยม จะต้องกลับหันหลังมาสนใจงานด้านวิชาการเพิ่มมากขึ้นอย่างเต็มตัว สพฐ.จะต้องทั้งปลุกทั้งปั้นให้ผู้บริหารโรงเรียนเก่งด้านวิชาการให้ได้ และต้องขยันมาโรงเรียนทุกวันทุกเช้า อบรมเด็กหน้าเสาธงได้ทุกวัน บริหารโรงเรียนไหนย่อหย่อนต้องจัดการเข้าฝึกอบรม พัฒนา หากยังไม่ดีขึ้นต้องลงโทษหรือโยกย้ายไปทำหน้าที่อื่น

 

6 โรงเรียนไหนที่ยังมีผู้บริหารที่ยังอยู่ในอาการที่เรียกว่า "ยักตื้นติดกึก  ยักลึกติดกัก" สมควรเชิญตัวไป "ปรับทัศนคติ" อยู่บ้านน่ากลัวจะดีครับท่าน

 

7 ต้องพัฒนาครูผู้สอนให้เก่งเรื่องการสอนในแต่ละวิชาไปเลย และ ต้องพัฒนาครูผู้สอนทุกชั้นด้วย ใช้เวลาวันหยุดราชการหรือวันปิดภาคเรียน อย่าเอาเวลาการเรียนการสอนของเด็กไปนั่งประชุม อบรมหรือสัมมนาโดยเด็ดขาด เนื่องจากเวลาจะเรียนก็น้อยอยู่แล้ว ยังจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นอีกก็ไม่รู้ว่าจะพูดภาษาอะไรดีแล้วครับเจ้านาย

 

ผมก็ขออนุญาตกราบเรียนเสนออย่างนี้และครับ เพราะกราบเรียนเสนอมาหลายวิธีแล้วคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยก็ยังตกต่ำ และต่ำต้อยต่ำเตี้ยจนอับอายขายขี้หน้าเหลือเกินและครับ แต่ผมก็พอทราบว่า สิ่งที่ผมเสนอไปนี้ ยากไม่มีใครจะเอาด้วยหรอกครับ

 

ผมก็ขออนุญาตเสนอมาแก้รำคาญ  เพราะทนดูไม่ได้ที่เห็นการศึกษาของเราเหลาเหย่ จนเอียงกระเท่เร่จะตกขอบโลกอยู่แล้วครับใต้เท้า ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage