นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ข้อสรุปการจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ครั้งที่ 2/2564 โดยดำเนินการตามมติคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 5/2564 ที่เห็นชอบแนวทางการพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยยกเลิกการสอบ “วิชาเอก” ตั้งแต่การสอบครั้งที่ 2 เป็นต้นไป
พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาประสานกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ในการสร้างข้อสอบตามที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องกำหนดวันสอบครั้งที่ 2 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะหารือกับ สทศ.ก่อนเสนอประธานกรรมการคุรุสภาพิจารณา ซึ่งอาจจะต้องเลื่อนการจัดสอบออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน 2564 จากเดิมกำหนดจะจัดสอบในเดือนตุลาคมนี้
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯครั้งที่ 2 จะยังคงองค์ประกอบของการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนดไว้ โดยให้ทดสอบ 2 ส่วน คือ ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 4 วิชา ได้แก่ วิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร, การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา, และวิชาชีพครู
และการประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเรียนรู้, ด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน และด้านการปฏิบัติหน้าที่ครูและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
นายดิศกุลกล่าวกรณีนายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) มีความเห็นว่า การสอบวิชาเอกมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบคุณภาพครูว่า มีความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอนมากน้อยเพียงใดนั้นว่า ตนขอชี้แจงว่าคณะกรรมการคุรุสภาเห็นความสำคัญของการทดสอบวิชาเอกและมีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ไว้
โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 คณะ เพื่อปรับปรุงพัฒนาหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูระบบใหม่ ที่ระบุสาขาวิชาเฉพาะ หรือระบุความเฉพาะทางของผู้มีใบอนุญาตฯ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการใช้ครูที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาเฉพาะ หรือความเฉพาะทางที่ระบุในใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูต่อไป
การพัฒนาระบบการออกใบอนุญาตฯจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายผลิตครู หน่วยงานผู้ใช้ครู ที่ต้องร่วมกันสร้างคุณภาพครูรุ่นใหม่ที่สอดคล้องสัมพันธ์กันทุกฝ่าย และเชื่อมโยงกับระบบการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ที่แสดงถึงความรู้ ความสามารถทางวิชาชีพครู และองค์ความรู้ในสาขาวิชาเอก หรือสาขาวิชาเฉพาะของผู้ได้รับใบอนุญาตฯ
ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดขอบเขตการใช้ครูที่ตรง หรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาเอก หรือสาขาวิชาเฉพาะของผู้มีใบอนุญาตฯมากขึ้น และจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทยในภาพรวม
นายดิศกุลกล่าวด้วยว่า การยกเลิกเกณฑ์การทดสอบวิชาเอก ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง การยกเลิกการสอบวิชาเอกเป็นเรื่องของหลักกฎหมายที่ใช้ดุลพินิจตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภาในการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อควบคุมคุณภาพของผู้ประกอบวิชาชีพครู โดยไม่ได้ละเลยหลักการทางวิชาการ และหลักการของวิชาชีพครู
"นอกจากการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูโดยคุรุสภาแล้ว การคัดกรองผู้ประกอบวิชาชีพครูยังมีกระบวนการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย ของหน่วยงานผู้ใช้ครูสังกัดต่างๆ เพื่อคัดเลือกผู้มีความรอบรู้และลุ่มลึกในเนื้อหาวิชาที่สอนเข้าไปเป็นครู ซึ่งทำให้ได้คนที่มีคุณภาพตามที่หน่วยงานต้องการ" เลขาธิการคุรุสภา กล่าว
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)