หยิกแก้มหยอก (วันที่ 26 กรกฎาคม 2564)

สิงห์  ราชดำเนิน 

... “หยิกแก้มหยอก” ลุเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา ปี 2564 แล้ว ท่ามกลางโควิด-19 กำลังระบาดรุนแรงทั่วโลกไม่เว้นประเทศไทย ขอเชิญชวนงดเหล้า เลิกบุหรี่ ละเว้นอบายมุข เพื่อดูแลสุขภาพตัวเอง ตลอดเทศกาล เพื่อรักษาสุขภาพกายและจิตใจให้เข้มแข็ง จักเป็นประโยชน์ยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้...|...ล่าสุดแห่งความยินดี เมื่อ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ “น้องเทนนิส” คว้าเหรียญทองเทควันโดหญิง โอลิมปิก2020 ได้เป็นผลสำเร็จ เตรียมบินกลับกักตัวที่ภูเก็ต ต่อไป...|  

|...ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อนับเวลาการเข้ารับตำแหน่งเสนาบดี ศธ. ของ ตรีนุช เทียนทอง เริ่มเมื่อ 29 มี.ค.64 ถึง ณ วันนี้แล้ว กำลังจะผ่าน 120 วัน แห่งความเครียดสะสม ไม่พียงแค่การเผชิญกับการระบาดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น ยังต้องแบกรับกับสาระพันปัญหาจากผู้ปกครอง นักเรียน ครูและบุคลากร ตามมาวันละหลายรอบอีกด้วย...น่าเห็นใจจริง ๆ...|... แม้ในที่สุดที่ยังไม่ที่สุด ที่ ตรีนุช เทียนทอง เอ่ยร้องขอให้บรรดาสถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชน คืนค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่ได้ใช้จริง คืนแก่ผู้ปกครอง ผ่านมากว่า 60 วัน แล้ว มีเพียงไม่กี่แห่งที่ยืดอกออกข่าวใหญ่โตว่าคืนแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่คืนจริง จึงเป็นที่มาของ ผู้ปกครองไม่ทน ขยายวงฟ้องไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกับลงมาเล่นเอง ...|...ในที่สุด นายกรัฐมนตรี อดรนทนไม่ไหว นัด ก.อุดมศึกษาฯ และ ก.ศึกษาธิการ มาประชุมพร้อมหน้า เพื่อร่วมกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง ครู และนักเรียน นักศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มด้อยโอกาสยากจนและกลุ่มผู้พิการ นำเข้าที่ประชุม ครม. พรุ่งนี้ 27 ก.ค.2564 ...|

|...ด้วยฟอร์มที่เหนือกว่า ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.โชว์ตัวเลขสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและในกำกับ 35 แห่ง นักศึกษา 922,794 คน ลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาอย่างชัดเจน เป็นระบบ ครบกระบวนการไปเรียบร้อยแล้ว วันนั้นมี ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ เข้าไปร่วมช่วยแก้ปัญหา...|...แต่วันนั้นในส่วน ศธ.ครูเหน่ง ตรีนุช เทียนทอง คงตื่นเต้นไปหน่อย บอกได้แค่ว่า ศธ.มีมาตรการการช่วยเหลือ แต่รับรองว่าจะไม่ทิ้งเด็กคนใดคนหนึ่งไว้ข้างหลังและไปให้ถึงผู้ปกครอง ฟังแล้วน่าฮัก กับข้อมูลเบื้องต้นที่ดูยิ่งใหญ่ เมื่อต้องไปเผชิญหน้าผู้นำประเทศเพื่อขอความงบช่วยเหลือ ที่ดูว่างเปล่า ...|...มาถึงวันนี้ ตรีนุช เทียนทอง ดูหมือนเธอยังเดินเดียวดาย เมื่อออกมาบอกว่า จะเสนองบฯ 2.1600 ล้าน 4 มาตรการ ในการประชุม ครม.วันที่ 27 ก.ค.นี้ โดยแจกนักเรียนคนละ 2,000 บาท กว่า 10.8 ล้านคน จ่ายเงินตรงให้ผู้ปกครองนำไปใช้ตามความจำเป็นเข้าไป ... โอมายก้อด ฟังดูแล้ว ง่าย สะดวกยิ่งกว่า แอปเป๋าตัง เชียวนะเนี่ย...|...ลองดีดลูกคิด งบฯ 2.1600 ล้าน แจกนักเรียนคนละ 2,000 บาท กว่า 10.8 ล้านคน นี่ได้แค่มาตรการเดียวนะ มองไปใน มาตรการที่ 2 ต้องชงงบขออีกเท่าไร ยังอุ๊บอิ้บ ๆ ไม่บอกชัด  คือ การขอความร่วมมือจากโรงเรียนเอกชน ให้ลด หรือตรึงค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ปกครอง ตรงนี้พูดกันมาตั้งแต่เริ่มระบาดโควิด รอบ 2 แต่ก็ยังเป็นเรื่องคุยย้ำซ้ำชาก จนผู้ปกครองไม่ทนให้เห็น นี่ไง ...|...ตามด้วยมาตรการที่ 3 การลดช่องว่างการเรียนรู้ ลดผลกระทบความรู้ที่ขาดหายไป นี่ไม่น่ามีปัญหามากมาย เพราะให้สถานศึกษาถัวจ่ายเงินใน 5 รายการ ที่ได้รับจัดสรรตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ติงนิดเดียวที่คิดจะจัดเช่าอุปกรณ์ พร้อมสัญญานอีก 200,000 ชุด ให้นักเรียน/นักศึกษา กลุ่ม ป.4 – ม.6 และ อาชีวศึกษา ใช้ยืมเรียนออนไลน์ นี่ต้องระวังประเภทกินตามน้ำหน้าเดิม ๆ ที่วันนี้แปลงร่างเป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ที่ใกล้ตัวให้ดีก็แล้วกัน ขอบอกว่าไม่ควรวางใจนัก...|...ส่วนมาตรการที่ 4 เป็นการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน ก็เช่นกัน ระวังความทับซ้อนซ่อนเป๋าตังค์ มีการลงทะเบียนภาครัฐกับหน่วยงานกระทรวงอื่นแล้วให้จงดี...แม้ว่าเป็นมาตรการที่มีความตั้งใจจริงก็ตาม “สิงห์ ราชดำเนิน”  ขอลุ้นให้ได้งบมาจริง ๆ แต่เมื่อดูถึงนำเสนอแบบอะไร ๆ ก็ไม่ชัด ขาดทั้งวิชาการและรายละเอียดของตัวเลขที่ควรจะเป็นรูปธรรม ที่สามารถติดตามตรวจสอบได้ ถ้าครม.จะให้ ก็คงให้แบบเบลอ ๆ มึน ๆ เหมือนเพิ่งได้ฉีดวัคซีนโควิดไม่ครบโด้ท ยังไงยังงั้น ว่าไหม ...|   

|...ทำไมไม่มองไปที่มืออาชีพ ศึกษาแบบอย่างกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่มี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน ยกตัวเลข น.ร.ยากจนพิเศษระดับการศึกษาภาคบังคับ 911,364 คนที่ยังศึกษาต่อในสถานศึกษาเดิม แต่เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. 64 กลับพบว่านักเรียนระดับชั้นดังกล่าวหายไปถึง 57,590 คน ยังสามารถนำมาเป็นเหตุเป็นผลขอเพิ่มงบได้อย่างงดงาม ข้อมูลอย่างนี้ ศธ. ทำได้ไหม รึเขิน ...|...จึงเป็นที่มาของ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่าย 2565 และมีกรรมาธิการฯ ที่ชื่อ ผ่องศรี ธาราภูมิ กับกรรมาธิการงบฯ ล้วนเห็นพ้องให้จัดสรรเพิ่มให้กับ กสศ. เล่นเอา นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. ยิ้มแก้มไม่หุบมาถึงทุกวันนี้ เพราะมีเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ อยู่เคียงข้างวางใจได้ทุกอย่างจึงมีแต่ได้กับได้เสมอมา...| 

|...สุขใจไปกับบุคลากร ข้าราชการและครอบครัวของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อได้รับการตอบรับจากการได้ทุกหน่วยงานในศธ.เอง ร่วมแบ่งปันพื้นที่ให้เป็นศูนย์พักคอยคอยดูแล หลังจากส่งเสียงร้องขอไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (สบค.ศธ.) ผ่านสำนักข่าวการศึกษา edunewssiam  ตั้งแต่ 30 มิถุนายน 64  คิดว่าไม่มีผู้บริหาร หรือ รัฐมนตรีคนใดได้ยิน แม้จะล่าช้าไปเกือบเดือน แต่ก็ยังดีที่ยังได้เห็น...|...ทั้งจัดเตรียมสถานที่พักคอยหรือโรงแรม ห้องพัก สกสค., หอพักสถาบันพัฒนาผู้บริหารวัดไร่ขิง และจัดหาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วน อีกทั้งเตรียมส่งต่อสำหรับผู้ป่วยหนัก ตามข้อเสนอแนะ ขอขอบคุณจากใจจริงที่ไม่เมินเสียงจากสื่อเล็ก ๆ และจากบรรดาข้าราชการตัวน้อย ๆ ศธ ที่ร้องขอ จากเหตุวันนั้น จึงมีวันนี้...|... ซึ่งแน่นอนว่า ระบบราชการแม้มีความล่าช้าไม่ทันการ แต่เมื่อเป็นประโยชน์ใหญ่ย่อมไม่ขัดขืน จะเห็นได้จากการพิจารณาขยับปรับอาคาร และพื้นที่ ของสถานศึกษามาเป็นโรงพยาบาลสนาม เป็นศูนย์พักคอย ในสังกัดต่าง ๆ ตามมามากมาย น่าปลื้มใจในยามนี้...ยกตัวอย่างแม้ไม่ครบ อย่าต่อว่ากัน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ของ อัมพร พินะสา และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ของ สุเทพ แก่งสันเที๊ยะ ไล่ไปถึง หน่วยงานเล็ก ๆ ที่ วรัท พฤกษาทวีกุล นั่งเป็นเลขาธิการ กศน. อีกทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดศธ.ทำงานแบบเงียบ ๆ แต่มีพลังอีกหลายแห่ง ควรได้รับคำชื่นชม ล้วนเป็นตัวอย่างราชการที่ดีงามทั้งสิ้น...| 

|...และวันนี้ มีข้อสังเกตจากบรรดาข้าราชการ ศธ.ว่า ผู้บริหารระดับสูงจำนวนหนึ่ง กำลังหลงไหลคลั่งไคล้จมอยู่กับสื่อสังคมออนไลน์ ช่างขยันออกคลิป ออกข่าวผ่านไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก  จนกระทั่งเว็บไซต์กระทรวง MOE.GO.TH ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์หลักของรัฐบาลในการสื่อสารและอ้างอิงระดับชาติ หายไปจากหน้าจอเทคโนโลยี ที่เชื่อมสังคมไทย สังคมโลกและนานาชาติ นานเกินไปแล้ว แต่กลับไม่มีผู้บริหาร ศธ.คนใดเอะใจ สนใจ ใส่ใจ...|...ยังคงปล่อยให้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นเชือกผูกคอตัวเองและถูกลากจูงไปแบบไม่รู้เท่าทัน ประโยชน์แท้จริงไม่เกิดแก่ ศธ.โดยรวม แม้จะมีการร้องเรียนไปถึง ปลัดฯสุภัทร ให้ตรวจสอบกรณี การใช้ทรัพยากรหลวงไปผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับภารกิจ ศธ.นำไปเผยแพร่และมีการหารายได้เกิดขึ้นบนสื่อโซเชียลเพจเฟซบุ๊ก แต่เรื่องก็ยังเงียบ...|... นอกจากนี้ ยังมีเสียงต้วงติงจากอดีตปลัด ศธ. ข้องใจเรื่องการปล่อยปละให้ผู้ตรวจราชการ ศธ.สามารถลงนามทั้งสั่งตัวเองและมอบหมาย ศธจ.ไปตรวจราชการได้เอง โดยไม่ผ่าน ปลัดฯสุภัทร ทั้งๆ ที่ต้องเป็นอำนาจของปลัด ศธ.ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ ถือว่าเป็นเรื่องผิดระเบียบสำนักนายกฯชัดเจน ...|... รวมทั้งมีกรณีเรื่องของการถามหาความคืบหน้าการสืบสวนข้อร้องเรียนกล่าวหาการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัดทั่วประเทศ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ...|... เสียงจากผู้หลักผู้ใหญ่ของศธ.หลายท่านยังฝากผ่าน สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com มาถึง ท่านปลัดฯสุภัทร ด้วยในทำนองเป็นห่วงสุดๆ กรณีการคัดเลือกข้าราชการในตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น ที่ว่าง 15 ตน. เปิดรับสมัครมาตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.2564 บัดนี้ล่วงข้ามมาจะสิ้นกรกฎาคมแล้ว ยังไร้ความคืบหน้า ไม่รู้อยู่ขั้นตอนไหน ลือกันว่ามีการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการคัดเลือก จริงหรือไม่ ...

|...หลากหลายเรื่องราวที่ยังไม่เกิดความชัดเจนขึ้นในรั้ว ศธ.เหล่านี้ จึงนำพาให้บรรดา ขรก.ใน ศธ.ทั้งปัจจุบันและอดีต ต่างห่วงใย ปลัดฯสุภัทร จำปาทอง ที่เหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียว เกรงจะต้องเจอกับมรสุมเดินขึ้นศาลหลังเกษียณฯ หากยังไม่กระตือรือร้นรีบออกมาตัดสินใจแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องสุ่มเสี่ยงที่อาจถูกฟ้องร้อง

เฉพาะอย่างยิ่ง กรณีคัดเลือกข้าราชการ ศธ.ในตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น ที่ว่าง 15 ตน. จะเสร็จทันก่อนผู้มีสิทธิเข้ารับคัดเลือกประมาณ 10 คน จะเกษียณฯในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ หรือไม่? ถ้าไม่ทันก็อาจจะมีสิทธิถูกฟ้องร้องเอาได้ ทั้งศาลปกครอง ฐานละเมิดเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย และฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เอาผิดฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ได้ด้วย เขาฝากความห่วงใยกันมาด้วยรัก ปลัดฯสุภัทร จำปาทอง ...|... ผู้หลักผู้ใหญ่ของ ศธ. บางคนห่วงใยเผื่อไปถึง รมว.ศธ. ตรีนุช เทียนทอง อาจตกบันไดพลอยโจนขึ้นศาลไปด้วย ...|... โดยยกกรณีตัวอย่างในอดีต การเดินขึ้นศาลของอดีตผู้บริหารใน ศธ.ทั้ง ขรก.หลังเกษียณฯ และนักการเมืองที่หมดอำนาจ ล้วนพบแต่ความอ้างว้าง เดียวดาย แม้จะสงสารจับใจ ก็ช่วยไม่ได้ทั้งเพ ...|

|...ล่าสุดมีคนตั้งข้อสังเกตถึงกระแสข่าวมโนทิพย์ จากสื่อสายพยักหน้าคำราม ประเภทจ้องจับเหยื่อกินเอง ที่คน ศธ.ต่างส่ายหน้าระอาใจ รับสมอ้างว่า นายไพบูลย์ ประธานกก.สรรหาฯ  จะเชิญต้นสังกัดเจ้าของตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นเข้าร่วมประชุม เพื่อนัดหมายกระบวนการคัดเลือกโดยการสัมภาษณ์ต่อไปแล้ว ...|...เล่นเอาผู้คนในแวดวง ศธ. พากันขำกลิ้งทั้งประเทศ เพราะรู้ดีว่า ประธานสรรหาฯ แม้จะเคยใหญ่ในศธ.ไม่กล้าเสี่ยงพาตัวเองเข้าสู่พฤติกรรมตามข่าวมโน ๆ เช่นนั้นได้ไม่ว่าทางใด  ขืนทำจะยิ่งกว่าโควิด-19 แน่ ๆ ...เจอะมโนทิพย์ข่าว แบบรับสมอ้างไปเดือนละข่าวสองข่าว จนได้สมญาสื่อมโนเลี้ยงชีพ  ยิ่งเมื่อมีการถามหาการสัมภาษณ์และภาพการประชุมยืนยัน ระหว่างนายไพบูลย์กับต้นสังกัดเจ้าของตำแหน่ง ประเภทบริหารระดับต้น ที่บอกมีมติการประชุมว่า ให้เลื่อนการคัดเลือกฯออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จะคลี่คลาย ก็ไม่เป็นความจริง ...|...อย่างน้อยเป็นข่าวใหญ่อยู่ในความสนใจของสังคม ศธ. ควรเสนอข้อเท็จจริหรือวิเคราะห์มากกว่ามโนทิพย์ ...| พบกับ “สิงห์ ราชดำเนิน” ใหม่ สวัสดีครับ

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)