เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบของประชาชน ในโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 2,000 บาท ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทั้งในและนอกสังกัด ศธ.ทุกคนทั่วประเทศ จำนวน 10,952,960 คน รวมเป็นเงินประมาณ 21,905,920,000 บาท

ซึ่งขณะนี้ในภาพรวมมีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว จำนวน 10,258,424 คน รวมเป็นเงิน 20,516,848,000 บาท คิดเป็น 93.66% ของนักเรียน นักศึกษาที่มีสิทธิทั้งหมด โดยจำแนกเป็นหน่วยงานในสังกัด ศธ.จ่ายเงินเยียวยาแล้ว จำนวน 9,569,466 คน เป็นเงินประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 97.75% จากนักเรียนที่มีสิทธิทั้งหมด 9,709,019 คน

ส่วนหน่วยงานนอกสังกัด ศธ.ได้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว จำนวน 688,958 คน เป็นเงินประมาณ 1.3 พันล้านบาท คิดเป็น 59.24% จากนักเรียนที่มีสิทธิทั้งหมด 1,162,941 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ 

รมว.ตรีนุชกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทุกสังกัดเร่งรัดดำเนินการจ่ายเงิน 2,000 บาท ให้ถึงมือนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ปกครองโดยเร็ว ยืนยันว่านักเรียนที่มีสิทธิทุกคนจะได้รับเงิน และหากมีปัญหาให้ติดต่อที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ในพื้นที่

"และเพื่อให้การดำเนินโครงการฯและการเบิกจ่ายเงินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดิฉันจึงได้เสนอขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ ศธ.จากเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 เป็นเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2564" รมว.ศธ.กล่าว 

เศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า ขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวในกลุ่มเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) ที่มีนายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี เป็นประธานเครือข่าย เพื่อทวงถามเงินเยียวยาจำนวน 2,000 บาท ให้กับกลุ่มนักศึกษาอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งตกหล่นไม่ได้รับความช่วยเหลือลดภาระทางการศึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดจาก ศธ.และรัฐบาล 

หลังจากที่เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้รับทราบเรื่อง และได้มอบหมายให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. ประสานงานไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อขอให้ทบทวนและขยายเพดานการเยียวยาให้ถึงกลุ่มนักศึกษาอาชีวะระดับปริญญาตรีด้วย ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อสภาพัฒน์พิจารณาแล้วต้องเสนอให้ ครม.ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป แต่จนถึงขณะนี้เรื่องนี้ยังเงียบอยู่

อนึ่ง สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ว่า ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้ชี้แจงว่า ในการประชุมร่วมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. และนายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. เพื่อจัดทำตัวเลขข้อมูลผู้ที่จะได้รับการเยียวยาคนละ 2 พันบาท ก่อนจะเสนอสภาพัฒน์ได้พิจารณานั้น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้จัดทำข้อมูลตัวเลขนักศึกษาในสังกัดทุกระดับ จนถึงปริญญาตรีที่มีจำนวน 10,538 คน

ซึ่งในที่ประชุม น.ส.ตรีนุช และนายสุภัทรก็ยืนยันตัวเลขตามที่ สอศ.เสนอ แต่เมื่อสภาพัฒน์พิจารณาและส่งเรื่องให้ ครม.พิจารณา กลับตัดกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีของ สอศ.ออกไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ น.ส.ตรีนุชรับทราบเรื่องดังกล่าว ก็ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้นายสุภัทร ปลัด ศธ.ประสานไปยังสภาพัฒน์ เพื่อขอให้ทบทวนและขยายเพดานการเยียวยาให้ถึงกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีอาชีวะด้วย ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อสภาพัฒน์พิจารณาแล้วต้องเสนอให้ ครม.ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

"และหาก ครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว สอศ.จะเร่งดำเนินการเรื่องโอนงบประมาณให้กับสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 23 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเบิกจ่ายเงินเยียวยาคนละ 2 พันบาท ตามมาตรการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาของ ศธ.ได้ทันที เพราะขณะนี้ สอศ.ได้เตรียมงบประมาณเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว" เลขาธิการ กอศ.กล่าว

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)