ตาม"นายกฯตู่"ไปเปิดงานมหกรรมวิทย์เทคโนฯ ชวนเยาวชนเรียนรู้โลกอนาคต

ตาม "นายกฯตู่" ไปเปิดงานมหกรรมวิทย์เทคโนฯ ชวนเยาวชนเรียนรู้โลกอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2564 เผย “เป็นวันแห่งความสุข” ย้ำประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้ามั่นคงได้ด้วยวิทยาศาสตร์ กระตุ้นเยาวชนต้องเรียนรู้โลกแห่งอนาคต ความรู้ที่หลากหลายไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในโรงเรียน ขอบคุณกระทรวง อว.ที่นำนโยบายรัฐบาลไปปฎิบัติ

ด้าน “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รมว.อว.ปลื้ม 15 ปี ของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้มีส่วนในการสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ สร้างสังคมอุดมปัญญาให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ ที่มาเที่ยวชมงานมากกว่า 15 ล้านคน ชี้เป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ชื่นชอบการแสวงหาความรู้

โดยเมื่อวันที่ 10 พฤจิกายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2564 ที่ อิมแพค  เมืองทองธานี มี ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกดษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), ศ.นพ.ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว., เอกอัครราชทูตจากประเทศเดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และรัสเซีย ผู้แทนทูตจากสหราชอาณาจักร เข้าร่วม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การมาเปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ถือเป็นวันแห่งความสุขของตน ขอบคุณกระทรวง อว.ที่นำนโยบายของตนและรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในการยกระดับและพลิกโฉมประเทศ ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง เราต้องปรับตัว เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัล

สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้ามั่นคงได้ คืองานด้านวิทยาศาสตร์ เป็นงานที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกคน พวกเราคนไทยคงจำได้ว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยมีความเป็นมายาวนาน เราโชคดีที่คนไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงให้ความสนพระทัย และทรงนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการวางรากฐานประเทศ พัฒนาวิทยาศาสตร์ให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ

ดั่งที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 4 “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” ทรงเป็นแบบอย่างในการนำองค์ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้แก้ไขปัญหาความทุกข์ยาก ความเดือดร้อนของประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ตนขอเชิญชวนให้ทุกคนมาเยี่ยมชมงานในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่เยาวชนได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ก่อให้เกิดคุณอเนกอนันต์แก่ประเทศ เพื่อนำมายึดถือเป็นแบบอย่างในความมุ่งมั่นศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เพื่อประโยชน์แก่สังคมโดยรวมในปัจจุบัน

เราต้องเรียนรู้โลกแห่งอนาคตซึ่งเป็นโลกแห่งองค์ความรู้ที่หลากหลาย สามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างไร้พรมแดน ไม่ได้จำกัดอยู่ในโรงเรียน ทักษะด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมต้องเป็นความรู้พื้นฐานของคนไทย โดยต้องมีการเรียนรู้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง กระจายไปทุกพื้นที่ของจังหวัด เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ทั้งครู นักเรียน ประชาชน ผู้นำชุมชนต่างๆ ให้ความสนใจในเรื่องนี้

"เพราะนี่คืออนาคตของประเทศไทย อนาคตของคนไทยทุกคน ซึ่งเยาวชนของเราไม่ด้อยกว่าชาติใดในโลก และยังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยระดับนานาชาติด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ด้าน ศ.(พิเศษ) ดร.เอนกกล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯในปีนี้จัดขึ้นบนแนวคิด “ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Art–Science–Innovation and Creative Economy)” และสื่อสารเนื้อหาทางวิชาการตามนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ของประเทศ และนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม “BCG Model : Bio-Circular-Green Economy”

รวมทั้งร่วมเฉลิมฉลองวาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์และสังคมของโลกในปี ค.ศ.2021 ได้แก่ ปีสากลแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (International Year of Creative Economy for Sustainable Development) โดยมีเป้าหมายสำคัญคือให้งานนี้เปลี่ยนระบบความคิดของคนไทยให้หันมาสนใจ ชื่นชอบวิทยาศาสตร์

เปลี่ยนมุมมองว่า วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก น่าตื่นเต้น น่าเรียนรู้และจับต้องได้ ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น นิทรรศการความก้าวหน้าและกิจกรรมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม กิจกรรมสำหรับเยาวชน และการประกวดแข่งขัน U2T Hackathon 2021 เป็นต้น

รมว.อว.กล่าวต่อว่า ที่สำคัญมหกรรมวิทยาศาสตร์ปีนี้ได้นำแนวนโยบาย BCG Model มาจัดเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (1st  BCG Science Fair in SEA) เพื่อจุดประกายความคิดสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG โดยปลูกฝังให้เยาวชนและคนไทยรับทราบ เริ่มลงมือปฏิบัติและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน  

ตลอด 15 ปี ของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้มีส่วนในการสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ สร้างสังคมอุดมปัญญาให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ ที่มาเที่ยวชมงานมากกว่า 15 ล้านคน นับเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ชื่นชอบการแสวงหาความรู้

"โดยปีนี้ได้สร้างสรรค์วิธีการ รูปแบบการรับชมงานแบบไฮบริดอีเว้นท์ ที่ผสมผสานระหว่างการเข้าชมงานในฮอลล์ หรือเลือกรับชมจากที่บ้านก็ได้ โดยมุ่งหวังว่า เด็กและเยาวชนไทย ตลอดจนสังคมไทยจะยกระดับความรู้ ได้รับแรงบันดาลใจสร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความเป็นชาติแห่งวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมในอนาคตต่อไป” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

สำหรับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2564 จัดตั้งแต่วันที่ 10–19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ที่อาคาร 9–12 อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี มี 80 หน่วยงานทั้งในและต่างประเทศร่วมกิจกรรม

ผู้สนใจมาชมได้ที่งาน หรือรับชมทางออนไลน์ที่ www.thailandnstfair.com หรือ www.facebook.com/nstfairTH

 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)