อว.รองรับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด! เตรียม รพ.สนาม-มหา'ลัยทั่ว ปท.

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ทำให้มีความกังวลในเรื่องความพร้อมของจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย

โดยในส่วน อว.ขอยืนยันว่า เราเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของโรงพยาบาล (รพ.) ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ในสังกัด ให้พร้อมที่จะรับผู้ป่วยหนัก และเตรียมโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ทั่วประเทศถึง 47 แห่ง ใน 39 จังหวัดไว้แล้วหากมีความจำเป็นจะต้องเปิดใช้

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว.กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563-2564 มหาวิทยาลัยในสังกัด อว.ทั่วประเทศได้ร่วมกันเปิดโรงพยาบาลสนามในทุกภุมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน สามารถดูแลผู้ติดเชื้อในหลายระลอกที่ผ่านมา รวมกันแล้วมากกว่า 100,000 คน จนผู้ติดเชื้อจำนวนลดลง ทางโรงพยาบาลสนามจึงได้พักการดำเนินงานชั่วคราว

แต่ในขณะนี้มีความกังวลว่าอาจจะเกิดการระบาดเพิ่มได้อีก ทาง อว.จึงได้สั่งการเพิ่มเติมให้โรงพยาบาลสนามแต่ละแห่งร่วมมือกับทางจังหวัดและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ พร้อมกลับมาเปิดรับผู้ป่วยได้หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือปรับรูปแบบเป็น Home Isolation หรือ Community Isolation 

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ในช่วงนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและน่าจะสามารถดูแลที่บ้านหรือในชุมชนได้ แต่ทั้งนี้ ก็ได้เตรียม รพ.สนามไว้รองรับด้วย ซึ่งรวมมีจำนวนเตียงกว่า 13,416 เตียง

ได้แก่ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 8 แห่ง ที่มหาวิทยาลัย (ม.) ศรีนครินทรวิโรฒ นนทบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี, มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ธนบุรี ศูนย์สมุทรปราการ, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  (สวทช.), องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) (CI), ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน (CI), ม.รามคำแหง (CI) และ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (CI)

ภาคกลาง 6 แห่ง ที่ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ นครนายก, มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา, มรภ.เทพสตรี, มรภ.พระนครศรีอยุธยา, มทร.รัตนโกสินทร์ ว.วังไกลกังวล และ มทร.สุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี

ภาคเหนือ 13 แห่ง ที่ ม.พะเยา, ม.แม่โจ้ เชียงใหม่, ม.แม่โจ้ แพร่, ม.แม่ฟ้าหลวง, มรภ.กำแพงเพชร, มทร.ล้านนา ตาก, มรภ.อุตรดิตถ์, มรภ.นครสวรรค์, มรภ.เพชรบูรณ์, มทร.ล้านนา เชียงใหม่, มรภ.พิบูลสงคราม พิษณุโลก (CI), ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ (CI) และ ม.แม่ฟ้าหลวง (CI)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 แห่ง ที่ ม.เกษตรศาสตร์ สกลนคร, ม.ขอนแก่น, ม.เทคโนโลยีสุรนารี, ม.มหาสารคาม, ม.มหิดล อำนาจเจริญ, มรภ.บุรีรัมย์, มรภ.อุดรธานี สามพร้าว, มรภ.อุบลราชธานี, วิทยาลัยชุมชนยโสธร และ มทร.อีสาน ขอนแก่น (CI)

ภาคใต้ 10 แห่ง ที่ ม.ทักษิณ พัทลุง, ม.สงขลานครินทร์ ปัตตานี, ม.สงขลานครินทร์ ภูเก็ต, ม.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่, ม.สงขลานครินทร์ ตรัง, มรภ.ยะลา, มรภ.สุราษฏร์ธานี, มรภ.ภูเก็ต, ม.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่ (CI) และ ม.แม่โจ้ ชุมพร (CI)

และภาคตะวันออก 3 แห่ง ที่ มรภ.ราชนครินทร์, มรภ.รำไพพรรณี และ มทร.ธัญบุรี ปราจีนบุรี

ปลัด อว.กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลสนาม อว.เคยรับผู้ป่วยสูงสุดในเวลาเดียวกันกว่าจำนวนหมื่นราย ซึ่งปัจจุบันเหลือรักษาตัวอยู่เพียงแค่พันกว่าราย จึงมีกำลังพอจะรองรับได้เพิ่มอีก และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังหนักหน่วง อว.ยังสามารถขยายเตียงในโรงพยาบาลสนามเพิ่มได้อีก 15,000 เตียง จึงขอย้ำว่า อว.พร้อมเป็นกองหนุนอย่างเต็มที่ และระชาชนไม่ต้องห่วงว่า จะไม่มีเตียง

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)