แกนนำครูจี้ "ตรีนุช" สั่ง กก.ประเมินผลงาน "ธนพร สมศรี" เร่งสรุปตัดสินผ่าน-ไม่ผ่านเกณฑ์ เลิก-ไม่เลิกจ้าง ห่วงปม! "บิ๊กอ๋อ" ประกาศลาออกก่อน อาจยังมีสิทธิ์รักษาการเก้าอี้เลขาธิการ สกสค.ต่อได้อีก 90 วัน พร้อมเรียกร้องให้ลุยสางเงื่อนงำในองค์กรดูแลสวัสดิการครูฯ

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า มีแกนนำเครือข่ายองค์กรครูและบุคลากรทางการศึกษา ใช้ชื่อว่า "ช.ช้าง" ได้โพสต์และเผยแพร่ข้อความในไลน์กลุ่มเครือข่ายองค์กรครูและบุคลากรทางการศึกษา เรื่อง "ข่าวเด่น ประเด็นร้อน(ระอุ)" มีใจความสรุปได้ว่า

"จากที่ปรากฏข่าวนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ในฐานะประธานกรรมการคุรุสภา ได้ลงนามในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างนายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 มกราคม 2565 

โดยให้เหตุผลว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการประเมินผลงานและการประเมินผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานในรอบปีงบระมาณ 2564 ของนายดิศกุลเสนอ ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน

รวมทั้งปรากฏข่าวในช่วงเย็นของวันเดียวกัน (21 มกราคม 2565) กรณีนายธนพร สมศรี ประกาศในโซเชียล ขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในระหว่างการประเมินผลงาน ส่งผลให้วงการเสมาจึงมีการวิพากษ์กันไปต่างๆ นานา

โดยกรณีนายดิสกุล อดีตเลขาธิการคุรุสภา พอคาดเดาได้ เพราะคะแนนประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ แต่กรณีนายธนพร สมศรี ชิงลาออกก่อนที่จะจบการประเมิน ทำให้อาจตีความได้ว่า นายธนพรอาจรู้ตัวว่าไม่ผ่านแน่ๆ การชิงลาออกก่อนจึงอาจดูดีกว่าการถูกปลดออก และอาจคิดว่ามีสิทธิ์รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.ได้อีก 90 วัน หลังการลาออก"

แกนนำเครือข่ายองค์กรครูฯที่โพสต์และเผยแพร่ข้อความในไลน์กลุ่มเครือข่ายองค์กรครูฯ ยังระบุด้วยว่า "จากการวิพากษ์ประเด็นนายธนพรอาจมีสิทธิ์รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.ได้อีก 90 วัน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงของพี่น้องครูและผู้นำองค์กรครูทั่วประเทศ

พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะกรรมการประเมินผลงานตามสัญญาว่าจ้างนายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ต้องเร่งดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ และแจ้งผลการประเมินว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ผ่านให้กับเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับทราบ

สายตาของคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งประเทศ จึงกำลังจับจ้องมาที่กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.อย่างระทึก เป็นการบ้านที่ "ครูเหน่ง" น.ส.ตรีนุช เทียนทอง บอสใหญ่ของกระทรวงเสมาต้องคิดหนัก โปรดติดตามช็อตต่อไปนะคร้าบบบ..." 

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 แกนนำครูหลายจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคเหนือ นำโดยนายทนง ทศไกร อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.นครสวรรค์ หนึ่งในผู้สมัครเข้ารับการสรรหาตำแหน่งผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งที่ผ่านมา ได้เข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.ตรีนุช

โดยนอกจากเรียกร้องให้ น.ส.ตรีนุช ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. และประธานคณะกรรมการคุรุสภา เร่งสั่งการให้มีการสรุปผลประเมินการปฏิบัติงานในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และเลขาธิการคุรุสภาโดยเร็วแล้ว

ยังยื่นข้อเรียกร้องให้ น.ส.ตรีนุชเข้าไปแก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใสในสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งมีหลายเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาเรื่องความไม่ชอบธรรม 

เช่น การแก้ไขระเบียบคุณสมบัติของผู้เข้ารับตำแหน่งบริหารในสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. เช่น ไม่ต้องมีประสบการณ์บริหารการศึกษาก็เข้ามาเป็นได้ ลดคุณสมบัติจบการศึกษาระดับปริญญาโทลงมาเหลือแค่ระดับปริญญาตรี แต่ยังคงมีฐานเงินเดือนค่าตอบแทนเท่าเดิมประมาณ 120,000 บาท

หรือกรณีการแก้ไขหลักเกณฑ์การสรรหาตำแหน่งผู้อำนวยการ สกสค. 64 จังหวัด ครั้งที่ผ่านมา จากเดิมให้มีการสมัครภายในแต่ละจังหวัด และแต่ละจังหวัดคัดเลือก 2 รายชื่อเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ส่วนกลางคัดเลือกเหลือคนเดียว และทำสัญญาจ้าง

แต่มีการแก้ไขให้มาสมัครและคัดเลือกที่สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ส่วนกลาง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาว่า มีการเล่นพรรคเล่นพวกในหลายจังหวัด เฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่มีคนนอกภูมิลำเนาได้รับคัดเลือก ซึ่งอาจกระทบต่อการบริการสมาชิกครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นๆ

ทั้งนี้ ปัญหาร้องเรียนกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใสในสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.เหล่านี้ ทางแกนนำครูจังหวัดต่างๆ ได้เคยส่งเรื่องร้องเรียนมาให้ น.ส.ตรีนุชได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องยังเงียบหายอยู่

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)