ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีต ผอ.ร.ร.เตรียม อุดมศึกษา คดีเรียกรับเงินฝากเด็กเข้าเรียน

 

 

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีต ผอ.ร.ร.เตรียม

อุดมศึกษา คดีเรียกรับเงินฝากเด็กเข้าเรียน

 

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีต ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา คดีเรียกรับเงินฝากเด็กเข้าเรียน พบหลักฐานเส้นทางเงิน นำส่งเข้าสมาคมผู้ปกครองครูโรงเรียนก่อนโอนต่อให้ญาติ- ส่วน 'โสภณ กมล' ที่ประชุมฯ สั่งสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม   

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กับพวก กรณีกำหนดหลักเกณฑ์รับนักเรียนในปีการศึกษา 2559-2561 โดยไม่เป็นไปตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยม เขต 1 และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนด 

หลังผลการไต่สวน พบหลักฐานเรียกรับเงินในการนำเด็กเข้าเรียน โดยมีการโอนเงินเข้าสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนที่จะมีการโอนเงินจากสมาคมฯ ต่อให้ญาติ จำนวนหลายยอด เป็นเวลา 3 ปี

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานข่าวยืนยันว่า พวก ของ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา อีกคนดังกล่าว ที่ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ด้วยนั้นมีใครอีกบ้าง

ซึ่งในส่วนอดีต ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ที่เข้ารับตำแหน่งในช่วงต่อมาอีกราย ที่ถูกสอบสวนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ด้วยนั้น เบื้องต้นที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้สอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม และให้นำเรื่องกลับเข้ามาเสนอให้พิจารณาชี้มูลความผิดอีกครั้ง

สำหรับ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ดำรงตำแหน่ง ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ในช่วงปี 2556 -2561 ส่วน อดีตผอ.ดำรงตำแหน่ง ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ในช่วงปี 2561-2563 ต่อเนื่องกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีปัญหาความไม่โปร่งใสในการบริหารงาน ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา นั้น เคยปรากฏเป็นข่าวในเดือนมี.ค.2563 ว่า นายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 (รอง ผอ.สพม.เขต 1) เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน กรณีอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ในฐานความผิดเกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าโดยทุจริต 

ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจาก สพม.เขต 1 ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเกี่ยวข้องกับบัญชีเงินของโรงเรียน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ปี 2558 มีการเปิดบัญชีธนาคาร 2 บัญชี คือ 

บัญชีแรกระบุชื่อ “สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” แต่ไม่มีเงินเคลื่อนไหวใดๆ

ส่วนอีกบัญชีระบุชื่อ “ผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา”

มีเงินเคลื่อนไหวกว่า 100 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 58-61 ซึ่งเปิดในนามบุคคล

และทางอดีตผู้บริหารโรงเรียนไม่สามารถชี้แจงได้ จึงเชื่อว่าอาจเกิดความไม่โปร่งใส 

ขณะที่ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2563 นายกฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พร้อมด้วย ศิษย์เก่า ครูเก่า และครูปัจจุบัน ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำอันมิชอบของ ผอ. ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา หลังพบหลักฐานที่ส่อถึงการปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบ 

ด้าน อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ชี้แจงต่อสาธารณชนว่า บริหารงานด้วยความโปร่งใส ถูกกลั่นแกล้ง เพราะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของบางกลุ่ม ทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์ คนเคยฝากได้กลับไม่ได้ เนื่องจากแต่ละปีมีเงินจากการรับนักเรียนสะพัด ปีละหลายร้อยล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก สำหรับความคืบหน้าอื่น ๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป.  

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage