ศธ.ยอมรับ ยกเลิกครูเวรไม่ได้ทันที เป็นไปตาม

ระเบียบสำนักนายก พร้อมเร่งแก้ปัญหา

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีมีคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายครูขณะที่มาอยู่เวรรักษาการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เหตุเกิดภายในบริเวณโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และมีการต่อสู้จนครูได้รับบาดเจ็บ นั้น

ระบุว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้นเรื่องความปลอดภัยในการอยู่เวรของครู ได้มีการประสานตำรวจในพื้นที่ตั้งตู้แดงเป็นจุดตรวจที่โรงเรียน พร้อมประสานฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคนในชุมชน ให้จัดชุดช่วยสอดส่องดูแลโรงเรียน ซึ่งขณะนี้อาจจะยังยกเลิกเวรครูไม่ได้ทันที

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทุกหน่วยงานยังต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรยามรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหายสถานที่ราชการ แต่มีข้อยกเว้นกรณีที่โรงเรียนใดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ให้ทำหน้าที่แทนได้ ก็คือจะยกเลิกครูเวรได้ในโรงเรียนที่มีความพร้อม ส่วนมากจะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณมากเพียงพอ

ระหว่างนี้ ประสานกระทรวงมหาดไทยส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ให้เข้ามาช่วยดูแลโรงเรียนหลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกทำร้ายร่างกายครูผู้หญิงขณะที่มาอยู่เวรรักษาการณ์

อีกทั้ง สพฐ. จะแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดเวรยาม ที่เหมาะกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนการนำเทคโนโลยี มาใช้ในการเสริมสร้างความปลอดภัยในโรงเรียนต่อไป รวมทั้งส่วนกลางได้มีหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทยให้สนับสนุนการทำงานของโรงเรียนก่อน

กล่าวอีกด้วยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้โทรศัพท์สอบถามเหตุการณ์และส่งกำลังใจให้แก่คุณครูที่ประสบเหตุด้วยตนเอง

พบว่า คุณครูมีขวัญและกำลังใจที่ดี อาการปลอดภัยดีขึ้นแล้ว อีกทั้งได้รับทราบถึงภาระและความกังวลใจของคุณครูทั่วประเทศ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวรกลางวันหรือเวรกลางคืนซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่งต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหายอันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ

ขณะเดียวกันยังได้กำชับ สพฐ. ให้ดูแลขวัญและกำลังใจของคุณครูที่ประสบเหตุ พร้อมติดตามการดำเนินคดีและกำหนดแนวทางสร้างเสริมความปลอดภัยในสถานศึกษาให้รัดกุมมากขึ้น

เพื่อให้คุณครูได้ทุ่มเทเวลาเพื่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู และ ได้สั่งการ สพฐ. ให้เสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่ง สพฐ. ได้จัดทำคำขอต่อ ครม. เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา”

"ในระหว่างที่ รอ ครม. พิจารณาอนุมัติคืนตำแหน่งนักการภารโรง ซึ่งจะสามารถช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่โรงเรียนได้อีกแรงหนึ่ง สพฐ.ขอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองในพื้นที่หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และช่วยเฝ้าระวังกรณีชุมชนมีบุคคลผู้เสี่ยงมีพฤติกรรมรุนแรง" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage