"คุรุสภา" ปรับปรุงกฎหมายลดขั้นตอนสางคดีจรรยาบรรณวิชาชีพเร็วขึ้น

"คุรุสภา"จับมือ ม.บูรพา ใช้ผลวิจัยปรับปรุงกฎหมายกระบวนการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา หวังลดขั้นตอนสอบสวนที่ทับซ้อนกับต้นสังกัด "ประวิต เอราวรรณ์" เผยมีเรื่องร้องเรียนค้างสะสมกว่า 1,200 คดี

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษาของคุรุสภา ว่าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำวิจัยเพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา

ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษากับวิชาชีพอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะ

โดยคุรุสภาจะนำผลการวิจัยมาใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษาของคุรุสภาต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากการควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ เป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของคุรุสภา ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 

ซึ่งปัจจุบันการกำหนดกระบวนการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเมื่อถูกกล่าวหา หรือกล่าวโทษเข้าข่ายประพฤติผิดทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ ผู้ถูกกล่าวหาหรือถูกกล่าวโทษมีสิทธิทำคำชี้แจงหรือนำพยานหลักฐานใดๆ ส่งให้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กม.) หรืออนุกรรมการภายในเวลาที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพกำหนด

โดยต้องทำการสืบสวนข้อเท็จจริง และสอบสวนโดยคณะอนุกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพที่แต่งตั้งจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ที่ต้องรับผิดชอบดูแลทุกพื้นที่ที่มีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษ โดยการดำเนินการทางจรรยาบรรณจะครอบคลุมผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

แม้จะเป็นกรณีการกระทำผิดเดียวกันที่มีการสืบสวนข้อเท็จจริง หรือการสอบวินัยจากต้นสังกัดแล้ว ก็ต้องเริ่มกระบวนการสอบสวนทางจรรยาบรรณของวิชาชีพใหม่ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของคุรุสภา จึงทำให้มีขั้นตอนของการดำเนินการทางจรรยาบรรณที่มีความทับซ้อนกับกระบวนการดำเนินการทางวินัยของต้นสังกัด

ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็นปัญหาอุปสรรคในการกำกับดูแลการปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพได้ จึงทำให้การลงโทษต่อผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพยังมีความล่าช้า ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินการสอบสวนทางจรรยาบรรณเพื่อความรวดเร็ว และเกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ รวมทั้งสามารถตรวจสอบได้  

รักษาการเลขาธิการคุรุสภากล่าวต่อว่า การปรับเปลี่ยนการดำเนินการสอบสวนทางจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็นหนึ่งเป้าหมายที่ตนได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประธานคณะกรรมการคุรุสภา ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยให้คุรุสภาเร่งสะสางเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ

"โดยขณะนี้มีเรื่องที่ค้างอยู่ประมาณ 1,200 กว่าคดี ซึ่งการปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา จะช่วยให้การดำเนินงานทางจรรยาบรรณของวิชาชีพมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และสอดรับกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน" รศ.ดร.ประวิต กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)