มติเอกฉันท์! ป.ป.ช.ชี้มูล 'นริศรา' อดีต
รมช.ศึกษาฯ-พวกกว่า 190 ราย คดีครุภัณฑ์
ไทยเข้มแข็ง
แม้จะยังไม่จบแต่ก็พอเห็นปรากฎการณ์บางอย่างกับจุดจบที่จะตามมา ในคดีจัดซื้อครุภัณฑ์ไทยเข้มแข็ง มติเอกฉันท์! ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด และพวกอีกกว่า 190 ราย มีทั้งจนท.รัฐ-เอกชน ในคดีโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง (SP.2) ประจำปีงบประมาณ 2553-2555
เรื่องราวนี้เกิดขึ้น ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีนางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
รายงานจาก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเสียงเอกฉันท์ชี้ความผิดโดยข้อกล่าวหา นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และพวก แต่ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด
ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ที่ในชั้นคณะกรรมการไต่สวนมีการสรุปเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวนมากกว่า 190 ราย ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชน ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดด้วยจำนวนกี่ราย
อย่างไรก็ดี ในรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ ไม่มีชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ร่วมอยู่ด้วย เนื่องจากชื่อ นายสุชาติ ถูกตีตกไปตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้ว
สำหรับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยเสนอข่าวไปในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ว่า ป.ป.ช.มีการรับเรื่องไต่สวนคดีนี้เป็นทางการ ระบุข้อกล่าวหาว่า มีการร่วมกันกำหนดวงเงินงบประมาณให้กับสถานศึกษา โดยมีเงื่อนไขหัก 1% ของงบประมาณที่ได้รับ
สถานศึกษาใดยอมรับจะได้รับการจัดสรรงบตั้งแต่ 30 ล้านบาท จนถึง 99 ล้านบาท หากไม่ยอมรับเงื่อนไขจะได้รับการจัดสรรเพียง 3 แสนบาท จนถึง 2 ล้านบาท ทำการติดต่อพ่อค้าให้เข้ามาตกลงเรื่องการจ่ายเงินเปอร์เซ็นต์ รวม 30%โดยเม็ดเงินทั้งหมดจะรวบรวมนำส่งให้กับผู้ถูกกล่าวหาบางราย
อนึ่ง การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam
ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage