'บิ๊ก ณรินทร์' เสนอ' เสมา 1 'ป้ายแดง คุ้มครอง สิทธิครู-สางปัญหาทับถม- ขาดบุคลากรการศึกษา -ปรับเกณฑ์สารพัด ว ขอวิทยฐานะ-ใช้นอก เหนือหน้าที่-เพิ่มสพม.ให้ครบทุกจว.

 

'บิ๊ก ณรินทร์เสนอ' เสมา 1 'ป้ายแดง คุ้มครองสิทธิครู-สางปัญหาทับถม- ขาดบุคลากรการศึกษา-ปรับเกณฑ์สารพัด ว ขอวิทยฐานะ-ใช้นอกเหนือหน้าที่-เพิ่มสพม.ให้ครบทุกจว. 

 

ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในฐานะนายกผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล “เศรษฐา 1” นั้น

 

ตนเชื่อว่าเป็นคนดี มีความสามารถนำความรู้และประสบการณ์จากสตช.มาบริหารงานศธ.ได้ โดยการดึงที่ปรึกษาและทีมงานที่เป็นนักการศึกษามืออาชีพเข้ามาช่วย ตนและชาว ส.บ.ม.ท.พร้อมให้กำลังใจการผลักดันงานการศึกษาชาติให้ก้าวหน้าต่อไป และสิ่งที่อยากฝาก รมว.ศธ.คนใหม่ และ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญ วรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการ ช่วยผลักดันเร่งด่วนมีหลายเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ปัญหาโดยเร็ว ดังนี้...

 

1.เรื่องสภาพการขาดแคลนครู ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข คือการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ (ว16) ซึ่งเปิดโอกาสให้ครูอัตราจ้างที่สอนเกิน 3 ปี ได้เข้าสอบ แต่มีการสอบเพียงปีละ 1 ครั้ง ทั้งที่มีอัตราเงินเดือน มีตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม

 

เพราะฉะนั้น ส.บ.ม.ท.จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อนุมัติหรือสั่งการให้สามารถสอบได้มากกว่าปีละ 1 ครั้ง

 

หากมีตำแหน่งว่างให้ดำเนินการได้ทันที เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นโรงเรียนทุรกันดาร โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชายขอบ โรงเรียนที่มีความยากลำบากในการคมนาคม

 

2.การควบรวมของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 2 จังหวัด ทำให้มีความยากลำบาก ไม่สะดวกในการบริหาร และการติดต่อราชการทั้งของ สพม.และสถานศึกษา ดังนั้น ควรจัดตั้ง สพม.ให้มีครบทุกจังหวัด โดยไม่ควรนำจำนวนโรงเรียน หรือจำนวนนักเรียน มาใช้เป็นตัวหลักในการจัดตั้ง เพราะจังหวัดแต่ละจังหวัด มีข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อย และปัญหา

 

3.ความก้าวหน้าในวิชาชีพของครูและผู้บริหารสถานศึกษานการขอมีวิทยฐานะและขอเลื่อนวิทยฐานะ ไม่ควรกำหนดวิธีการใดวิธีการหนึ่ง แต่ควรให้มีวิธีการที่หลากหลาย วิธีการแก้ปัญหา ให้เกิดความเหมาะสม ดังนี้

เกณฑ์ ว13/2556 เน้นให้โรงเรียนได้รับการพัฒนา ทั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาและคุณครู เพราะใช้ผลงานดีเด่นมาเป็นผลงานหลักในการขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ แต่ก็ยังมีองค์ประกอบย่อย ๆ ตามมา

เกณฑ์ ว17/2552 เน้นไปที่การทำผลงานทางวิชาการ ก็เหมาะสำหรับคนที่มีความรู้ความสามารถในเชิงวิชาการงานวิจัย

เกณฑ์ ว21/2560 การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ วิธีการนี้เป็นวิธีการที่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพครู เน้นงานในหน้าที่ครูเป็นหลัก ไม่ต้องมีผลงานดีเด่น ไม่ต้องมีผลงานทางวิชาการ แต่ทำหน้าที่ครูให้สมบูรณ์ที่สุด

เกณฑ์ ว9/2564 เน้นการผสมผสาน การจัดการเรียนการสอน และการจัดทำข้อตกลงพัฒนางาน กับผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยเมื่อจะขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ต้องมีการส่งเอกสารหลักฐานในการสอน ซึ่งจะประกอบด้วยเอกสารต่างๆ

และที่สำคัญก็ คือ คลิปการสอนในเวลาไม่เกิน 60 นาที นวัตกรรมที่ใช้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะว่าครูที่เป็นผู้มีอาวุโส หรือครูที่ไม่มีความถนัดในด้านเทคโนโลยีจะมีความเดือดร้อน ในการจัดทำคลิปการสอน ทั้ง ๆ ที่ครูเหล่านั้นเป็นครูที่สอนดี แต่การถ่ายทอดให้เป็นเทคโนโลยีให้เป็นไปตามเกณฑ์นี้ ก็เป็นปัญหาของคุณครูเช่นกัน

เกณฑ์ ว10/2564 ผู้บริหารสถานศึกษาก็มีความถนัด บริบทของแต่ละบุคคล ซึ่งมีสภาพการปฏิบัติงานที่มีความแตกต่างกันตั้งแต่ขนาดของโรงเรียน สภาพพื้นที่ของโรงเรียน จำนวนนักเรียน จำนวนครู

 

ฉะนั้น จึงควรให้เลือกวิธีการในการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เหมาะสมเช่นกัน และ ทาง ส.บ.ม.ท.จึงเห็นว่าควรให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีทางเลือก ในการจัดทำเพื่อขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ ให้เป็นไปตามความเหมาะสม ความถนัดของแต่ละบุคคล

 

4.ปัญหาที่เรื้อรังของการดึงครูออกนอกห้องเรียน สิ่งเหล่านี้มีผลทำให้เกิดความพลาดพลั้ง โดนลงโทษทางวินัย ตั้งแต่เบาสุดไปจนถึงร้ายแรง ถึงขั้นโดนไล่ออกจากราชการ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาทำผิด เพราะต้องมาเป็นเจ้าหน้าที่พัสดุทำการจัดซื้อจัดจ้าง

 

เพื่อป้องกันมิให้ครูไปทำหน้าที่ดังกล่าว ตนจึงขอเรียกร้องให้มีการจ้างเจ้าหน้าที่พัสดุและเจ้าหน้าที่การเงินไปประจำที่โรงเรียน โดยอาจจะแบ่งไปตามขนาดโรงเรียน เพื่อความเหมาะสม ปัญหาที่เกิดจากโครงการ กิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียนมีมากเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ควรยกเลิกโครงการที่ล้าสมัย และมีการรวบรวมโครงการที่มีความซ้ำซ้อนกัน ให้เป็นโครงการเดียวกัน

 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่เกิดจากการรายงานข้อมูลต่าง ๆ ที่ทางเขตพื้นที่ฯสั่งการให้โรงเรียนรายงาน ขอให้ดำเนินการบูรณาการข้อมูลเหล่านี้ของสำนักงานเขตไว้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมาขอให้โรงเรียนรายงานซ้ำซ้อน

 

จากการสดับตรับฟังหลังจากข้อเสนอของ นายก ส.บ.ม.ท. เผยแพร่ออกไป พบว่า ได้รับเสียงที่เห็นด้วยจากมวลครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมากมาย หาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รับไว้พิจารณาเพื่อดำเนินการเป็นวาระเร่งด่วน จะช่วยให้ครูมีขวัญกำลังใจมากขึ้นและพิสูจน์ได้ถึงคนมีผีมือจริง ๆ ...

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage