“สมศ.ปลื้ม” ประเมินรอบแรก ปี 67สถานศึกษาพอใจรูปแบบใหม่

 สมศ. ปลื้มผลตอบรับรอบประเมินแรกปี 67 โรงเรียน

 

“สมศ.ปลื้ม” ประเมินรอบแรก                    

ปี 67 โรงเรียนพอใจรูปแบบใหม่    

 

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยถึงผลตอบรับจากสถานศึกษาที่เข้ารับการประกันคุณภาพภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดีเกินเป้า ช่วยลดภาระสถานศึกษา ลดการใช้เอกสาร ลดพิธีการต้อนรับได้จริงลงไปมากกว่า 60% พร้อมปลื้มสถานศึกษาสะท้อนบทบาทถึงผู้ประเมินภายนอกที่มีความเป็นกัลยาณมิตร ไม่ตัดสิน ไม่จับผิด และให้คำแนะนำที่สอดคล้องตามบริบท ปฏิบัติได้จริง

 

นอกจากนี้ ทั้งยังเชิญชวนสถานศึกษาเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคำแนะนำที่ถูกต้องและนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับโชว์ตัวอย่างจากโรงเรียนที่เข้ารับการประเมินในรอบล่าสุด คือ โรงเรียนปลาปากวิทยา จังหวัดนครพนม ที่ได้นำข้อแนะนำจากการประเมินไปปรับใช้ทันที และพบว่าหลายทักษะและตัวชี้วัดด้านการเรียนการสอนเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สร้างจุดเด่นให้กับสถานศึกษาได้หลากหลายประเด็น

 

ดร.นันทา ยังกล่าวถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนที่มุ่งเน้นประเมิน ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) ไม่มีการตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถือว่ามีผลตอบรับอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ทั้งในเรื่องการตกแต่งสถานที่ต้อนรับ การจัดพิธีการต่าง ๆ 

 

 

ส่วนเสียงสะท้อนที่ดีที่สุด คือ เรื่องความเป็นกัลยาณมิตร และ การให้คำแนะนำในเชิงบวกของผู้ประเมินภายนอก ซึ่งสถานศึกษาส่วนใหญ่ ให้ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ประเมินภายนอกมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีการศึกษาบริบทของสถานศึกษามาเป็นอย่างดี ทำให้ผู้ประเมินภายนอกสามารถให้คำแนะนำกับสถานศึกษาได้อย่างสอดคล้องกับบริบท ตรงจุด เข้าใจง่าย สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และข้อเสนอแนะบางส่วน สถานศึกษาสามารถดำเนินการได้ในทันที

 

ดร.นันทา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สมศ. จึงขอย้ำกับสถานศึกษาว่า การประเมินครั้งนี้เป็นการประเมินเพื่อพัฒนา ไม่ตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แต่เป็นการมาช่วยดูว่าจุดเด่นของสถานศึกษาคืออะไร เพื่อพัฒนาต่อยอดอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น และมีจุดที่ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง

 

ฉะนั้นไม่ต้องกลัวหรือกังวลที่จะสะท้อนความจริงเพื่อให้ผู้ประเมินภายนอกได้รับทราบปัญหาที่แท้จริง สำหรับการวางแผนร่วมกันแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาและผู้เรียน โดยตรง

 

LINE_ALBUM_Science Camp โรงเรียนปลาปาก_๒๒๐๗๑๑_20 – คณะวิทยาศาสตร์และ ...

 

นายเกรียงไกร นามทองใบ รองผู้อำนวยการโรงเรียนปลาปากวิทยา จังหวัดนครพนม กล่าวว่า โรงเรียนของตนเข้ารับการประกันคุณภาพภายนอกมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ซึ่งพบว่าแตกต่างจาก 4 ครั้งที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยรอบที่ผ่านมาจะเน้นไปที่การชี้ข้อบกพร่องต่าง ๆ ทำให้รู้สึกคล้ายถูกจับผิด แต่สำหรับครั้งนี้มีลักษณะเป็นกัลยาณมิตรมากขึ้น ผู้ประเมินให้ความเป็นกันเองและให้คำแนะนำในเชิงบวก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่กดดัน

 

ส่วนเรื่องการเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการประกันคุณภาพภายนอก โรงเรียนมีการทำงานที่เป็นระบบอยู่แล้ว โดยโรงเรียนไม่ได้เตรียมการอะไร เนื่องจาก อีกทั้งตัวชี้วัดจากการประกันคุณภาพภายนอกก็ไม่ต่างจากการประเมินรางวัลโรงเรียนคุณภาพ (OBEC QA) ที่โรงเรียนเพิ่งมีการประเมินไปก่อนหน้า การประกันคุณภาพภายนอก จึงเพียงแค่นำงานที่มีอยู่มาจัดทำข้อมูลให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดเท่านั้น

 

นายเกรียงไกร กล่าวถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากผู้ประเมินภายนอกด้วยว่า โรงเรียนปลาปากวิทยา มีจุดเด่นเรื่องหลักสูตรท้องถิ่นที่เกี่ยวกับการทำผ้าลายคราม ซึ่งมีการทอผ้าและออกแบบบรรจุภัณฑ์แล้ว และยังสามารถนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกตามนโยบาย Learn to Earn

 

นอกจากนี้ มีเรื่องการพัฒนาห้องเรียนพิเศษ เช่น ยกระดับกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาแบบบูรณาการ (English Integrated Study) ให้เป็นคลาสที่สูงกว่า อย่างจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (Mini English Program) หรือเพิ่มห้องเรียนพิเศษเฉพาะหลักสูตรอื่นๆ เช่น ห้องวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์นั้น

 

โรงเรียนปลาปากวิทยา - YouTube

 

ทางโรงเรียนได้ส่งโครงงานวิทยาศาสตร์เข้าแข่งขันและได้รับรางวัลทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ ซึ่งทางผู้ประเมินภายนอกเล็งเห็นว่า เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโรงเรียนที่สามารถพัฒนาให้เป็น Best Practice ได้ จึงให้คำแนะนำว่า ควรมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน วิธีการดำเนินการ และขั้นตอนการปฏิบัติตั้งแต่ต้นจนสำเร็จเป็นโครงงานนั้นๆ และจัดทำในรูปแบบข้อมูลสารสนเทศที่สะดวกในการเผยแพร่และเข้าถึง เพื่อเป็นตัวอย่างให้โรงเรียนอื่นๆ เข้ามาศึกษาและสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับโรงเรียนของตนเอง

 

“การประกันคุณภาพภายนอก โดย สมศ. จะแตกต่างจากการประกันคุณภาพภายใน ตรงที่การประกันคุณภาพภายในเราเห็นแค่มุมมองของตัวเองเฉพาะบางเรื่อง แต่การประกันคุณภาพภายนอกของ สมศ. จะมองแบบภาพรวม เปรียบเหมือนกระจกที่ช่วยสะท้อนให้เห็นตัวเองในมุมมองที่ต่างออกไป ทำให้เราเห็นข้อดี ข้อด้อยของตัวเองชัดเจนขึ้น” นายเกรียงไกร กล่าว