"คนที่ก่อปัญหาในที่ทำงาน"
จันโททัย
รศ.ดร.ปราชญา กล้าผจัญ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยบอกให้ทราบถึงคนที่ทำงานในหน่วยราชการหรือในหน่วยงานเอกชนก็ตาม ให้ละเว้นการเป็นบุคคล 10 ประเภทที่มีการกระทำที่จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆในการทำงาน คือ
1 พวกเรือเกลือ ก็หมายถึงคนที่ทำงานล่าช้า เช้าราวกับเรือเกลือที่แล่นเอื่อยๆไปเรื่อยๆถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง
คนแบบนี้มักไม่สนใจใยดีว่า งานจะเสร็จหรือไม่ ถึงแม้จะถึงเวลาที่กำหนดแล้วก็ยังวางเฉย ทำงานอะไรก็อืดอาดแม้งานที่ทำอยู่นั้น จะมีเพื่อรอความสำเร็จที่ตนแต่เพียงผู้เดียว เป็นคนกระทำก็ตาม
สาเหตุอาจเพราะแก่ไปหรืออายุมากไปเสียแล้ว หรือไม่ก็หมดไฟเสียแล้วหรือไม่ก็คนที่เรียกว่าพวกไม้ตายซาก เกียจคร้าน ไม่ตั้งใจ ผัดวันประกันพรุ่งตลอด ถ้าอยู่ในงานราชการก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ระบบราชการของเราไม่ประสบความสำเร็จ
2 พวกเบื่องาน อาจารย์ท่านบอกว่า คือ พวกขี้เกียจทำงาน เซ็งกับชีวิตการทำงาน มองเห็นอะไรก็ไม่พอใจ เบื่อหน่าย และสุดแสนจะมีอาการเซ็งไปเสียทุกเรื่อง ท่านบอกว่ามักเกิดขึ้นกับพวกที่ชอบสะสมงานเอาไว้มาก ๆ หมักหมมจนเหม็นบูดเหม็นเปรี้ยว เป็นคนสิ้นหวังท้อแท้ อยากจะอยู่เฉยๆกินเงินเดือนหลวงฟรีๆ ไม่ร่วมมือกับใครทั้งนั้น
3 พวกผลาญเวลา ก็คือพวกใช้เวลาไม่เป็น ไม่รู้จักบริหารเวลา ดีแต่ฆ่าเวลา ปล่อยให้เวลาหมดเปลืองไปเปล่าๆโดยไร้ประโยชน์ ทำงานมาหลายสิบปี แต่แทบจะไม่มีผลงานอะไรปรากฏให้เห็น ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มาทำงานแบบไทยและไปแบบฝรั่ง จะช้าจะสายเพียงไรก็ไม่สนใจ เฝ้ามองแต่นาฬิกาว่ากี่โมงมองแล้ว มองอีกเพื่อจะกลับให้ตรงเวลาหรือก่อนเวลานิดหน่อย
4 พวกบ้าหอบฟาง อาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพวกชอบแสดงตนว่ามีธุระ หรือ มีงานมากเหลือเกิน ไปไหนมาไหนมือจะไม่ว่างเพราะหอบหิ้วแฟ้ม กระเป๋า สัมภาระต่าง ๆ พะรุงพะรังไปหมด ดูแล้วหน้าเวียนหัว เห็นแบบไปถือมาอยู่นั่นแล้ว อยู่ประหนึ่งว่าเป็นคนขยันเสียเต็มประดา แต่ที่จริงแล้วดีแต่เปลือกนอกเท่านั้น เป็นพวกข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงเสียมากกว่า
พร้อมบอกต่อไปอีกว่า เป็นการปกปิดลักษณะอันเป็นปมด้อยของตนเองที่หยิบจับทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง มีแต่ผลงานต่างๆที่คนบอกกันว่าไม่ได้เรื่องได้ราวสักอย่างเดียว
5 พวกฉันไม่เกี่ยว อาจารย์ท่านอธิบายว่า พวกนี้ไม่สนใจใยดีสิ่งรอบตัว จะหยิบจับแต่งงานที่ตนเองสนใจและถนัดเท่านั้น ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับตนจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด เห็นเพื่อนร่วมงานรุมทำอะไรกันอยู่ก็วางเฉย ไม่ยอมเข้าไปช่วยทั้งนั้น แม้จะได้รับการร้องขอให้ช่วยก็ยังไม่อยากช่วยหรือปฏิเสธหน้าตาเฉย
แต่พอเป็นเรื่องผลประโยชน์จะรวดเร็วมากเมื่อได้กลิ่นเงินเมื่อไหร่มีเงินอะไรออกมาจะต้องไปเบิกให้เร็วที่สุด จนเพื่อนๆร่วมงานพูดกันว่า "เรื่องกินเรื่องอยู่ ใครไม่สู้พ่อ เรื่องค้ำเรื่องถ่อ พ่อไม่สู้ใคร"
6 พวกเขี้ยวลากดิน อาจารย์ให้ความหมายว่า เป็นพวกที่อยู่มาเก่า มือเก๋า อยู่มายาวนาน มีเขี้ยวงอกยาวเหยียด พวกนี้เป็นพวกรู้มาก
หัวหมอ ไม่ยอมใครง่ายๆ มีพิธีรีตรองมาก หากจะทำงานใดก็ต้องมีการอ้อนวอนขอร้องกันเป็นการใหญ่ก็ยังมักจะหาโอกาสหลีกเลี่ยงเสมอหากมีโอกาสให้
7 พวกช่างนินทา คือ พวกที่จับกันเป็นกลุ่มพูดแต่เรื่องของคนอื่นเป็นการซุบซิบ ปากอยู่ไม่สุขตลอดกาล มีเวลาว่างแทนที่จะไปใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ กลับมาจับกลุ่มนินทาว่าร้ายกัน กินดีกินเด่นกันอยู่ในที ชอบเอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าสู่กันฟัง จริงบ้างไม่จริงบ้าง ใส่สีกันเข้าไป บางทีก็ติดเตียงเพื่อนร่วมงานเพราะความอิจฉาริษยาไม่อยากให้ใครได้ดีเกินหน้าตนเอง
อาจารย์ท่านสรุปว่าเห็นใครดีกว่า รวยกว่า เด่นกว่า มีชื่อเสียงกว่าแล้วทนไม่ได้เกิดอาการอิจฉาเขาจนหน้าเขียวหน้าเหลือง
8 พวกพาเพื่อนเสีย ก็คือการพาเพื่อนร่วมงานไปในทางไม่ถูกต้อง ชักนำเพื่อนไปสู่หนทางชีวิตที่เลวลงไปกว่าเดิม เปรียบเหมือนใบคาที่ห่อปลาร้า แล้วใบคาก็พลอยเหม็นตามปลาร้าไปด้วย
อาจารย์ท่านนี้บอกต่อไปว่า เพื่อนพวกนี้ชอบชวนไปทำอะไรที่เสื่อมเสียอยู่เสมอ
9 พวกเลียเจ้านาย อาจารย์ปราชญาท่านบอกว่าก็คือพวกประจบสอพลอ ล้อมหน้าล้อมหลังเอาใจเจ้านายทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำรับคับค้อน อาหารการกิน
งานเที่ยวตรีเฮฮา เจ้านายจะทำถูกหรือผิดไม่รู้ และ ไม่สนใจแต่จะชมเชยให้หนัก หรือ มากยิ่งขึ้น จะใช้คำต่อไปนี้ "ดีครับเจ้านาย" "เก่งจังครับลูกพี่" "เรื่องนี้คิดได้ยังไงครับท่าน" ดีแต่ชม ไม่กล้าติ ไม่กล้าเตือน บางทีนายก็เตลิดเปิดเปิงเข้ารกเข้าพงเข้าป่าไปได้เหมือนกันเพราะเจ้านายทำผิดเขาก็ว่าถูก ทำไม่ดีเขาก็ว่าดี บรรดาที่ปรึกษาบรรดาศักดิ์เหล่านี้ทำให้เสียหายหมด ยามดังหรือมีชื่อเสียงก็โด่งดังไปด้วยกัน แต่ยามดับพวกเขาก็ไม่ช่วย แต่ปล่อยให้ดับดิ้นสิ้นใจไปแต่เพียงผู้เดียว
ท่านเคยเจอบ้างหรือไม่ล่ะครับ ?