คดีองค์การค้าฯรับเช็คเด้ง 200 ล. ‘อดีตบิ๊ก ศธ.’ ส่ออ่วม! อาจชดใช้คนละ 40 ล.

เล็งฟ้องคดีเอาผิดทางละเมิด! องค์การค้าฯรับเช็คเด้ง 200 ล้านบาท “อดีตบิ๊ก ศธ.” ส่ออ่วม อาจชดใช้คนละ 40 ล.

จากกรณีเมื่อปี พ.ศ.2558 ตัวแทนร้านค้าขายหนังสือเรียนขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) รายหนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ่ายเช็คที่ไม่มีเงินให้กับองค์การค้าของ สกสค. จำนวน 200 ล้านบาท เป็นค่าจัดซื้อหนังสือเรียน

โดยที่ผู้เกี่ยวข้องในองค์การค้าฯขณะนั้น ได้ออกใบเสร็จรับเงิน พร้อมปล่อยสินค้าให้กับตัวแทนร้านค้ารายดังกล่าว สร้างความเสียหายแก่องค์การค้าฯมูลค่า  200 ล้านบาท

กระทั่งองค์การค้าของ สกสค.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง มี นายยศพล เวณุโกเศศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นประธาน แต่การสืบสวนยังไม่พบประเด็นเงื่อนงำความไม่ชอบมาพากล

ในขณะที่ นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ต้องการให้สืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงว่า ทำไมเมื่อเช็คยังไม่ถูกขึ้นเงิน แต่กลับออกใบเสร็จรับเงิน พร้อมปล่อยสินค้าให้กับตัวแทนร้านค้ารายดังกล่าว

ทั้งนี้ นายธนพรตั้งข้อสงสัยว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น มีเจ้าหน้าที่ในองค์การค้า สกสค.มีส่วนรู้เห็นอะไรหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องผิดปกติที่ผู้ดูแลสินค้าได้ปล่อยสินค้าออกไปให้กับตัวแทนร้านค้า ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับเงิน พร้อมทั้งได้เสนอเรื่องให้นายยศพล ประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯในช่วงขณะนั้น ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่จนถึงผู้บริหารองค์การค้าฯ

เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่า มีใครที่มีส่วนสร้างความเสียหายดังกล่าวบ้างหรือไม่ และหากพบว่ามีรายใดเกี่ยวข้อง จะได้ตั้งคณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิด เพื่อฟ้องร้องให้ชดใช้เงินจำนวน 200 ล้านบาท ที่สูญเสียไปนั้น

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าว EdunewsSiam รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 โดยได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวใน สกสค.ว่า เหตุที่นายธนพรต้องเร่งรัดคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงชุดนายยศพล

เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว อาจเกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์การค้าฯในช่วงเวลานั้น ซึ่งปัจจุบันได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว และคดีอาจใกล้หมดอายุความเอาผิดได้

ซึ่งถ้าคดีหมดอายุความเอาผิดได้ ผู้บริหารใน สกสค.ชุดปัจจุบันอาจต้องมีความผิดอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น จึงต้องเร่งรัดให้การสืบหาข้อเท็จจริงได้ข้อสรุปตามกระบวนการก่อนที่เรื่องนี้จะหมดอายุความเอาผิดได้

โดยหากคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงชุดนายยศพล สรุปผลสอบสวนว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น 200 ล้านบาทดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารองค์การค้าฯในขณะนั้นคนใดมีส่วนสร้างความเสียหาย จะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและฟ้องร้องความรับผิดทางละเมิด เพื่อให้ชดใช้เงินจำนวน 200 ล้านบาท

ซึ่งตามกฎหมายในกรณีขององค์การค้าฯเรื่องนี้ อาจเข้าข่ายกำหนดให้ระดับผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทำความเสียหายต้องชดใช้คนละ 20% ของจำนวนเงินที่เสียหาย 200 ล้านบาท ซึ่งมีประมาณ 2 คน หรือคนละ 40 ล้านบาท ส่วนระดับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำความเสียหายต้องชดใช้ร่วมกัน 60%

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)