“ตรีนุช” ประเดิมงาน! ลงดาบครูตีหัวเด็ก-แก้ปัญหานักเรียนนักเลง

ตรีนุช เทียนทอง

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีครูโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ใน ต.หนองขวาว อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ใช้ไม้บรรทัดตีศรีษะ ใบหน้า เเละด้านหลังของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้ไม่นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ได้รับทราบรายละเอียดเบื้องต้นจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุรินทร์ เขต 1 เเล้ว

ทราบว่าครูผู้ก่อเหตุเป็นครูอัตรจ้าง ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งตนได้สั่งการให้  ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ติดตามการให้ความช่วยเหลือนักเรียน เเละพิจารณาสั่งให้ครูคนดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมทั้งติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความผิดจริง ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ตนจึงได้สั่งการให้เลขาธิการ กพฐ.ซักซ้อมเเนวปฏิบัติในการจ้างครูผู้สอนว่า จะต้องเป็นผู้ที่ต้องมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนเท่านั้น เเละกำหนดไว้ในสัญญาจ้างด้วยว่า ครูจะต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพครู พร้อมทั้งเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า จะต้องปฏิบัติต่อศิษย์ด้วยความเมตตา ไม่กระทำรุนเเรงต่อศิษย์ ไม่ว่าโดยวิธีการใดก็ตาม

รมว.ศธ.กล่าวกรณีมีนักเรียนมัธยมใน จ.พิษณุโลกถูกยิงที่ศีรษะ บริเวณถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลก-สุโขทัย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากมีปัญหากับเพื่อนร่วมชั้น เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาว่า ตนได้ประชุมด่วนร่วมกับเลขาธิการ กพฐ. เพื่อหารือถึงมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนเเรงต่อนักเรียนทั้งในเเละนอกสถานศึกษา

ซึ่งนอกจากต้องมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวดเเละเป็นธรรมเเล้ว จะต้องกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องจิตวิทยา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการรู้จักตนเอง รู้จักวิธีการเเสดงออกที่ถูกต้องเหมาะสมต่อผู้อื่นเเละสังคม

พร้อมกันนี้ ตนได้หยิบยกนโยบาย Youth Counselor ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีการดำเนินการมาระยะหนึ่งเเล้วมาทบทวนการทำงานใหม่  โดยเพิ่มบทบาทของนักจิตวิทยาประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศให้มีการทำงานเชิงรุกในสถานศึกษามากขึ้น 

ขณะเดียวกันให้สถานศึกษาจัดระบบเฝ้าระวังดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทอย่างรุนเเรง รวมถึงการเข้าป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาการก่อเหตุรุนเเรง นอกจากนี้  ตนจะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการทบทวนระบบการดูเเลความประพฤติของนักเรียน นักศึกษาในปัจจุบันว่า มีประสิทธิภาพเพียงใด ควรจะรื้อฟื้นระบบสารวัตรนักเรียนที่ยุบเลิกไป หรือจะมีระบบอื่นๆ ที่สร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ

"การมีผู้เรียนเป็นเป้าหมายของการพัฒนา หรือ Student Centricity ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของรูปเเบบการทำงาน ‘TRUST’ จะต้องเริ่มจากการที่สถานศึกษาทุกเเห่งมีความพร้อมที่จะเป็นบ้านหลังที่สองให้เเก่เด็กๆ ทุกคน ถ้าบ้านยังไม่ปลอดภัยเเล้ว เราก็ไม่อาจจะพูดถึงการพัฒนาผู้เรียนในเรื่องอื่นๆ ได้" รมว.ศธ.กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)